ขุนพันธ์ 2016 ภาพยนตร์ไทยแอคชั่น แฟนตาซี ผลงานการเขียนและกำกับภาพยนตร์โดย ก้องเกียรติ โขมศิริ นำแสดงโดย อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม, กฤษดา สุโกศล แคลป์, ภคชนก์ โวอ่อนศรี, สนธยา ชิตมณี, กาต์พิสซา เกตุมณี, ชูพงษ์ ช่างปรุง, พิมลรัตน์ พิศลยบุตร ดัดแปลงอ้างอิงมาจากชีวประวัติของพลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช (บุตร พันธรักษ์) ผู้มีชื่อเสียงในการปราบโจรผู้ร้ายมากมายในภูมิภาคต่าง ๆ ของไทยผู้ที่สร้างชื่อเสียงมากมายให้กับวงการตำรวจไทย ที่ได้รับฉายามากมาย นายพลตำรวจหนวดเขี้ยว ขุนพันธ์ดาบแดงจอมขมังเวทย์ หรือนายพลตำรวจหนังเหนียวผู้จับเสือมือเปล่า ซึ่งท่านผู้นี้มีอายุยืนยาวถึง103 ปี (พ.ศ. 2446 – พ.ศ. 2549 ) ตัวภาพยนตร์กล่าวถึงในช่วงปี พ.ศ. 2481 ภาคใต้ของประเทศไทย
วันที่ออกฉาย : 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 (ไทย)
ผู้กำกับภาพยนตร์ : ก้องเกียรติ โขมศิริ
เขียนบทภาพยนตร์ : ก้องเกียรติ โขมศิริ
ดนตรีประกอบ : เทิดศักดิ์ จันทร์ปาน
จัดจำหน่าย/เผยแพร่ : สหมงคลฟีมล์ อินเตอร์เนชั่นแนล
ความยาว : 1 ชม. 50 นาที
รายได้บ็อกซ์ออฟฟิศ : 61.74 ล้านบาทไทย
รางวัลที่ได้เสนอชื่อเข้าชิง :
– รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม
พ.ศ. 2560 · กฤษดา สุโกศล แคลปป์
– รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ สาขาออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม
พ.ศ. 2560 ·
– รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ สาขาเทคนิคพิเศษการแต่งหน้ายอดเยี่ยม
พ.ศ. 2560 ·
– รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ สาขาเทคนิคพิเศษการสร้างภาพยอดเยี่ยม
พ.ศ. 2560 ·
คำกล่าว” กูสาบานว่าจะจับเป็นพวกมึง ถ้าพวกมึงเลิกเป็นโจร ” ประกาศิตของมือปราบร่างเล็กแต่ใจใหญ่ ผู้มากด้วยบารมีไม่มีใครไม่รู้จัก ขุนพันธรักษ์ราชเดช ที่แฝงตัวเข้าไปอยู่ในหมู่บ้านชาวประมงได้รับมอบหมายให้ลงไปปราบผู้ร้ายทางการเมือง หัวหน้าโจรชื่อ อัลฮาวียะลู ผู้ครอบครอง “ไตรภาคี” ของหายาก 3 อย่างคือ เขี้ยวเพชร เคราทองแดง และตับเหล็ก ที่มีลูกน้องฝีมือดีอีกหลายคน เป็นตัวละครที่ดัดแปลงมาจากจอมโจรแบ่งแยกดินแดน อะเวสะดอตาเละ ที่มีตัวตนอยู่จริง ขุนพันธ์ได้สมยานามจากชาวไทยมุสลิมเหล่านี้นว่า” รายอกะจิ “ที่มีความหมายว่าอัศวินพริกขี้หนู เอกลักษณ์ของขุนพันธ์คือใช้ดาบแทนปืนจนได้ฉายาว่า มือปราบดาบแดง / ขุนพันธ์ดาบแดง และในเวลาต่อมาได้เข้าปราบชุมเสือทั่วภาคกลางและภาคเหนือ ถือเป็นตำรวจตัวอย่างที่ตำรวจรุ่นหลังควรเอาเป็นตัวอย่าง
ขุนพันธ์ 2016
ภาพยนต์มีเค้าโครงจากเรื่องจริง ในปี พ.ศ. 2481 ช่วงที่ประเทศไทยมีกลุ่มเหล่าเสือโจรปล้นสดมพลุกพล่าน นายตำรวจ ขุนพันธรักษ์ราชเดช บุตร พันธรักษ์ ( อนันดา เอเวอริ่งแฮม ) นายตำรวจผู้ปราบปรามเสือและโจรมามากมายทั่วพระนคร จากเด็กธรรมดาชาวท่าศาลาเมืองนครศรีธรรมราช ที่มีความฝันอยากเป็นตำรวจ เค้าเติบโตขึ้นมาเป็นตำรวจฝีมือดีและมีความสามารถและมีอาคมคาถายิงไม่เข้า มองไม่เห็น และด้วยการปราบโจรหลายคนลงได้ และนำมาลงโทษตามกฏหมายได้ เมื่อภาคใต้เกิดโจรปล้นระดมชาวบ้านเดือดร้อน ตำรวจที่ส่งไปปราบกลับตายหมดทำให้ทางราชการต้องส่งขุนพันธรักษ์ ลงไปปราบเสือสังข์ ซึ่งหนีออกคุกเมืองตรัง อีกทั้งยังมีผู้ทรงอิทธพลในพื้นที่เลี้ยงดูเพื่อปกป้องผลประโยช์นของตัวเอง ทำให้การเข้าจับกุมเป็นเรื่องยากลำบาก แต่ถึงอย่างไรตำรวจหนุ่มก็ปราบโจรลงได้ และแต่งตั้งเป็นนายตำรวจพร้อมกับลูกน้องอีก 2 คน จากนั้นเพียงไม่กี่ปีต่อมาก็สามารถปราบโจรชื่อดังทั้ง 16 ราย อาทิเช่น เสือเมือง เสือย้อย เสือทอง เป็นต้นและได้เลื่อนยศตามความสามารถ รำ่เรียนวิชาคงกระพันธ์ต่างๆจากพระอาจารย์ที่นครศรีธรรมราช
ขุนพันธ์ได้รับมอบหมาย การเข้าปราบเสือโจรผู้ก่อการร้ายที่มีนามว่า อัลฮาวียะลู ( กฤษดา สุโกศล แคลป์ ) ตั้งกลุ่มโจรกับลูกน้องฝีมือดีอีกหลายคนปกครองแถบเทือกเขาบูโดที่มีหลวงโอฬาร( ภคชนก์ โวอ่อนศรี )นักการเมืองจังหวัดนราธิวาสรู้เห็นด้วย ที่เชื่อกันว่าหัวหน้ากลุ่มโจรผู้นี้ยิงไม่เข้าฆ่าไม่ตายและมีคาถาอาถมเช่นกันเป็นผู้อยู่ยงคงกระพันธ์ ที่ครอบครอง “ไตรภาคี” ของหายาก 3 อย่างคือ เขี้ยวเพชร เคราทองแดง และตับเหล็ก ไล่เข่นฆ่าเฉพาะไทยชาวพุทธมากมาย ขุนพันธ์แฝงตัวเข้าไปใช้ชีวิตในหมู่บ้านชาวประมงของ ไข่โถ( สนธยา ชิตมณี )และน้องสาวมาลัย( กาต์พิสซา เกตุมณี ) ขุนพันธ์ได้สืบรับรู้ถึงสาเหตุที่ทำให้อัลฮาวียะลู มาเป็นโจรร้ายจากพ่อของอัลฮาวีนั้นเอง ได้บอกถึงอดีตอัลฮาวีเป็นคนที่รักแม่มาก แต่อุบัติเหตุการตายของแม่จากเหตุชุลมุนระหว่างพ่อของเขากับตำรวจทำให้อัลฮาวีเปลี่ยนไป ทางฝั่ง อัลฮาวี หลังจากที่อัลฮาวียะลูและกลุ่มได้ปราบตำรวจแถวนี้จนสิ้นโดยมีหลวงโอฬารสนับสนุน ได้รับรู้การมาของกลุ่มนายตำรวจที่จะเข้ามาประจำการใหม่ กลุ่มของเค้าจึงได้ดักซุ่มโจมตีและเค้นถามข้อมูลจากสองนายตำรวจที่รอดชีวิต ได้รับรู้ถึงการมาของขุนพันธ์ที่แฝงตัวอยู่ในหมู่บ้านชาวประมงจึงได้ออกตามล่าขุนพันธ์เช่นกัน เรื่องราวการต้องสู้ของสองจอมขมังเวทย์จึงได้เริ่มต้นขึ้น จุดจบของภาพยนตร์แอคชั่นแฟนตาซีฝีมือคนไทยเรื่องนี้จะเป็นอย่างไรเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่อยากให้ทุกท่านได้ลองรับชม ผู้สร้างได้วางแผนสร้างภาคต่ออย่าง “ขุนพันธ์ 2” โดยการวางเอ็นเครดิตตอนท้ายเป็นภาพของขุนพันธ์นั่งคุยอยู่กับเสือใบ ( เป้ : อารักษ์ อมรศุภศิริอารักษ์ ) และบอกให้เสือใบมอบตัวเพื่อแลกกับการจับเป็น ถือเป็นภาพยนตร์ฝีมือคนไทยที่ทำรายได้มากที่สุดในประเทศไทยเป็นอันดับ 3 ประจำปี 2559 จัดทำถึงสามภาษาคือไทย ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น