127 Hours 2010 127 ชั่วโมงระทึก 2553 ภาพยนตร์เอาตัวรอดร่วมอังกฤษ อเมริกัน ร่วมเขียนผลิตและกำกับโดย แดนนี่ “ฟรานซิส” บอยล์ อ้างอิงจากชีวประวัติ อารอน ลี. ราลสตัน ที่เขียนลงในหนังสือ Between a Rock and a Hard Place (2004) สำหรับเรื่องย่อของภาพยนตร์เรื่อง 127 Hours นั้นเริ่มต้นจาก อารอน รัลสตัน นักปืนเขาที่เดินทางไปยัง แคนยอนแลนด์ เพียงลำพัง เพื่อเดินทางท่องเที่ยวปืนเขา และพบปะเพื่อนใหม่ ๆ ถึงแม้ว่าสถานที่แห่งนี้จะสวยงาม และอัศจรรย์ใจมากเพียงใด แต่อันตรายก็เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เมื่อ อารอน ได้พลัดตกลงไปในร่องของภูเขาลึกลงไปมากถึง 65 ฟุต หรือเกือบ 20 เมตร โดยถูกก้อนหินขนาดใหญ่ทับแขนของเขาอยู่อีกด้วย อารอน จะต้องพบกับความทุกข์ทรมานนานกว่า 127 ชั่วโมง หรือราว ๆ 5 วัน ที่เขาต้องเอาตัวรอดให้ได้จากสถานการณ์นี้ อารอนจะรอดได้อย่างไรติดตามได้ใน 127 Hours 2010 127 ชั่วโมงระทึก
วันที่ออกฉาย : 5 พฤศจิกายน 2553 (สหรัฐอเมริกา) l 7 มกราคม 2554 (สหราชอาณาจักร)
ผู้กำกับภาพยนตร์ : แดนนี่ “ฟรานซิส” บอยล์
เขียนบทภาพยนตร์ : แดนนี่ “ฟรานซิส” บอยล์ l ไซม่อน บิวฟอย
ดัดแปลงจากผลงาน : Between a Rock and a Hard Place (2004) · อารอน ลี. ราลสตัน
อำนวยการสร้าง : แดนนี่ “ฟรานซิส” บอยล์ l คริสเตียนโคลสัน l จอห์นสมิธ สัน
กำกับภาพ : เอนริเก เชแดค l แอนโธนี ดอด แมนเธอร์
ตัดต่อภาพยนตร์ : จอน แฮร์ริส
ดนตรีประกอบ : เอ.อาร์. ราฮมาน
ค่ายผลิต : เอเวอร์เรส เอนเตอร์เทนเมนท์ l ฟิล์ม4 โปรดักชั่น l ฟิล์มแฮนด์เมด l คลาวด์ เอซ ฟิล์ม
จัดจำหน่าย/เผยแพร่ : วอร์เนอร์บราเธอส์ เอ็นเทอร์เทนเมนต์ l ฟ็อก เซิฟชิน ไลท์ พิคเจอร์ส
ความยาว : 1 ช.ม. 33 นาที
งบประมาณการสร้าง : 18 ล้านดอลล่าสหรัฐ
รายได้บ็อกซ์ออฟฟิศ : 60.7 ล้านดอลล่าสหรัฐ
หากให้กล่าวถึงหนังที่สร้างจากเรื่องจริง ที่มีเรื่องราว หรือเหตุการณ์อันหดหู่ และอาจเกิดขึ้นจริงได้กับใครหลาย ๆ คน คงหนีไม่พ้นภาพยนตร์เรื่อง 127 Hours ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงของ นักปืนเขามืออาชีพอย่าง อารอน รัลสตัน เขาได้จัดสินใจไปปืนเขาไต่ผาเพียงลำพัง ในสถานที่แหล่งธรรมชาติอันสวยงามอย่าง แคนยอนแลนด์ แต่เขากลับพบกับเหตุการณ์อันไม่คาดคิด และทำให้เขาต้องตกอยู่ในสภาวะสุดหดหู่ ท้อแท้ และสิ้นหวังตลอด 127 Hours
เดือนเมษายน ในปี 2003 นักปีนเขาตัวยง อารอน ลี. ราลสตัน ( เจมส์ ฟรังโก ) เดินทางไป อุทยานแห่งชาติแคนยอนแลนด์ ที่ตั้งอยู่ในทิศตะวันออกเฉียงใต้ ของรัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา เขาไม่ได้บอกใครว่าเขากำลังจะไปที่ไหน ซึ่งก็เป็นปกติของชีวิตผู้ชื่นชอบการผจญภัยอย่างเค้า อารอนปั่นจักรยานคู่ใจไปอย่างผู้ชำนาญในพื้นที่ ครั้งถือว่าโชคดีที่เขาได้พบเพื่อนร่วมทางระหว่างเดินทางครั้งนี้ คือ สองคู่หูนักเดินทางไกลสาวสวยอย่าง คริสติน ( เคท มาร่า ) และ เมแกน ( แอมเบอร์ แทมบลิน ) อารอนจึงถือโอกาสครั้งพาเพื่อนใหม่ไปที่สุดพิเศษของที่นี่ นั้นคือสระว่ายน้ำใต้ดินขนาดใหญ่ที่ใสและสวยงาม ทางลงไปนั้นคือสไลด์เดอร์ลงไปจากร่องหินอย่างน่าอัศจรรย์ พวกเขาเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานก่อนที่สาวๆจะแยกย้ายกลับบ้าน ส่วนอารอนยังคงขอผจญภัยต่อไปตามหุบเขา เพื่อไปยังจุดหมายเค้าผ่านไปถึง หุบเขาช่องบลูจอห์นแคนยอน ในขณะที่ปีนอารอนเสียหลักตกลงไปในร่องหิน โดยที่มือขวาของเค้าติดอยู่ระหว่างผนังกับหินหินก้อนใหญ่ที่ร่วงลงพร้อมเค้า
อารอนพยายามเคลื่อนย้ายก้อนหิน แต่มันไม่ขยับ เขาขอความช่วยเหลือทุกวิถีทาง ในไม่ช้าเขาก็เริ่มบันทึกวิดีโอไดอารี่โดยใช้กล้องถ่ายวิดีโอเพื่อรักษาขวัญและกำลังใจ ในขณะที่เขาขูดส่วนต่างๆของก้อนหินด้วยมีดพก อารอนตั้งสติและจัดสันปันส่วนอาหารและน้ำที่เหลืออยู่เพียงแค่ 150 มล. พยายามดิ้นรนเพื่อให้ร่างกายอบอุ่นในตอนกลางคืน และต้องดื่มน้ำปัสสาวะของตนเองเมื่อน้ำของเขาหมด นอกจากนี้เขายังตั้งรอก โดยใช้เชือกปีนเขาเพื่อพยายามยกก้อนหินขึ้นมา แต่มันกลับไร้ประโยชน์ ตลอดหลายวันอารอนหมดหวังและหดหู่ เค้าเริ่มเห็นภาพหลอนนึกย้อนกลับไปถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ ประสบการณ์ในอดีต รวมถึงรานาแฟนเก่าของเขาและครอบครัวของเขา เป็นอาการของคนขาดอาหารและน้ำ อารอนตระหนักว่าความผิดพลาดของเขาคือเขาไม่ได้บอกใครว่าเขากำลังจะไปที่ไหนหรือนานแค่ไหน และยอมรับว่ามันคงเป็นโชคชะตา ที่ได้ขังเขาไว้กับก้อนหินนี้ตลอดไป แต่ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบไป อารอนคิดถึงภาพในอนาคตของเขาครอบครัวและลูกๆ มันกระตุ้นให้เขาตั้งสติกลับขึ้นมาเพื่อดิ้นรนมีชีวิตรอดอีกครั้ง เขาใช้เชือกรัดแขนกลั้นเส้นเลือด และตัดสินใจหักกระดูกที่แขนขวาที่เละติดกลับหินไปแล้ว และใช้เครื่องมือค่อยๆตัดมันด้วยความเจ็บปวด แต่มันเป็นทางรอกเพียงทางเดียว
หลังจากหลุดออกมาได้ อารอน ค่อยๆโรยตัวลงไปบนพื้นด้วยความสูง 65 ฟุต เดินย้อนกลับไปในทะเลทราย ของอุทยานแห่งชาติแคนยอนแลนด์ จนสุดท้ายอารอนได้พบและขอความช่วยเหลือครอบครัวหนึ่งที่มาเดินป่าเช่นกัน พวกเขาให้น้ำแก่เขาและแจ้งเตือนเรื่องนี้กับเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงของรัฐยูทาห์ รีบส่งเฮลิคอปเตอร์นำเขาไปโรงพยาบาลด้วยความเร่งด่วน เรื่องราวเลวร้ายผ่านไปหลายปีต่อมาอารอนแต่งงานและมีลูกชาย เป็นครอบครัวที่ดูอบอุ่น อารอนเค้ายังคงปีนเขาและมักจะทิ้งโน้ตบอกครอบครัวของเขาว่าเขาหายไปไหนเสมอ
ซึ่งต้องบอกเลยว่าเนื้อหาเรื่องราวในแต่ล่ะฉาก แต่ล่ะตอนภายในภาพยนตร์เรื่องนี้ สามารถถ่ายทอดอารมณ์ และความรู้สึกของตัว อารอน ได้เป็นอย่างดี พาเอาผู้ชมอินตาม และรู้สึกร่วมไปกับตัวละครได้อย่างง่ายดาย ทั้งความรู้สึกสิ้นหวัง ท้อแท้ จากการที่ไม่สามารถเอาตัวเองออกจากจุดอับของร่องลึกในแผ่นโลกนี้ได้ โดยทางตัวภาพยนตร์นั้น ได้นำเสนอเรื่องราวการนึกคิดของตัว อารอน เองออกมาให้กับผู้ชมได้รับรู้ถึง ความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเขาเอง ณ ห่วงเวลาที่เกิดเหตุ ที่ไม่ว่าจะเป็นความนึกคิดที่ตัว อารอน เกือบจะสติแตก หรือตอนที่ อารอน แทบจะจิตหลุด เมื่อไม่สามารถเอาตัวเองออกจากที่แห่งนี้ได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักแสดงนำอย่าง เจมส์ แฟรนโก นั้นสามารถถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกได้สมจริง และอินตามไปกับบทได้อย่างแท้จริง ทำให้ผู้ชมนั้นเชื่อ และร่วมลุ้นเอาใจช่วยตัวเอกอย่าง อารอน ให้รอดพ้นจากสถานการณ์ครั้งนี้ไปได้นั่นเอง และไม่เพียงเท่านี้ เพราะหากผู้ชมรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้จบ คุณจะรับรู้ได้ถึงวิธีการเอาตัวรอดที่ดีที่สุด นั้นก็คือ สติ และสัญชาติการดิ้นรนเอาชีวิตรอดของตัวเราเองนั่นเอง ซึ่งหนังเรื่องนี้นอกจากสร้างจากเรื่องจริงแล้ว ยังเป็นหนังที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่ท้อแท้ และสิ้นหวังในชีวิตได้เป็นอย่างดีอีกด้วย