Catch me if you can 2002 (จับให้ได้ ถ้านายแน่จริง 2545) ภาพยนตร์อเมริกันอาชญากรรม ชีวประวัติของอาชญากรนักปลอมแปลงเอกสาร แฟรงก์ อาบเนล จูเนียร์ ในหนังสือชือเดียวกับตัวหนังCatch me if you can ผลงานการกำกับและผลิตโดยสตีเวน สปีลเบิร์ก ผลงานการเขียนบทภาพยนตร์ของ เจฟฟ์ นาธานสัน แสดงนำโดยนักแสดงรางวัลออสการ์อย่าง ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ,ทอม แฮงค์, คริสโตเฟอร์ วอลเคน ภาพยนตร์ได้รับเสนอชื่อชองรางวัลมากมาย สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ทั้งออสการ์และลูกโลกทองคำ และสาขาอื่นๆในอีหลายรางวัลในปีนั้น
วันที่ออกฉาย : 25 ธันวาคม 2002 (สหรัฐอเมริกา)
ผู้กำกับภาพยนตร์ : สตีเวน สปีลเบิร์ก
เขียนบทภาพยนตร์ : เจฟฟ์ นาธานสัน
ผลงานดัดแปลงจากนวนิยาย : Catch me if you can · แฟรงก์ อาบเนล l สแตนเรดดิง
อำนวยการสร้างภาพยนตร์ : สตีเวน สปีลเบิร์ก l วอลเตอร์ ปาร์คส์
ดนตรีประกอบ : จอห์น วิลเลียมส์
ค่ายผลิต : Amblin Entertainment l Parkes/MacDonald Productions l Kemp Company l Splendid Pictures
จัดจำหน่าย/เผยแพร่ : ดรีมเวิร์ค พิคเจอร์
ความยาว : 2 ชม. 21 นาที
งบประมาณการสร้าง : 52 ล้านดอลล่าสหรัฐ
รายได้บ็อกซ์ออฟฟิศ : 352 ล้านดอลล่าสหรัฐ
รางวัลที่ได้รับ :
– บริติช อะคาเดมี่ ฟิล์ม อวอร์ดส์ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม
พ.ศ. 2546 · คริสโตเฟอร์ วอลเคน
– รางวัลสมาคมนักวิจารณ์ภาพยนตร์แห่งชาติของสหรัฐ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม
พ.ศ. 2546 · คริสโตเฟอร์ วอลเคน
– รางวัลสมาคมนักแสดงภาพยนตร์และโทรทัศน์ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม
พ.ศ. 2546 · คริสโตเฟอร์ วอลเคน
– ทีน ช้อยส์ อวอร์ด สาขานักแสดงบทคนหลอกลวงยอดนิยม ในด้านภาพยนตร์
พ.ศ. 2546 · ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ
– BMI Film Music Award
พ.ศ. 2546 · จอห์น วิลเลียมส์
– คริติกส์ชอยส์มูฟวี่อวอร์ด สาขาดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
พ.ศ. 2546 · จอห์น วิลเลียมส์
– คริติกส์ชอยส์มูฟวี่อวอร์ด สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม
พ.ศ. 2546 · สตีเวน สปีลเบิร์ก
– รางวัลสมาคมผู้กำกับศิลป์ สาขาออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม – ภาพยนตร์ร่วมสมัย
พ.ศ. 2546 · ซาราห์ โนวลส์, เจนนีน อปปีวาลล์, ปีเตอร์ ร็อาเนส
แฟรงก์ อาบเนล จูเนียร์ (ลีโอนาโด ดิคาปริโอ) เกิด 27 เมษายน 1948 กลางกรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นใฝ่รู้สังเกตุและจดจำสิ่งรอบข้าง เพื่อนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์เสมอ ในปี1963 ครอบครัวถูกบังคับให้ย้ายบ้านมาอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ขนาดเล็กเพราะปัญหาทางการเงินอีกทั้งพ่อของเค้าแฟรงก์ อาบเนล ซีเนียร์(คริสโตเฟอร์ วอลเคน) ยังถูกปฏิเสธสินเชื่อธุรกิจที่ธนาคารเชส สาขาแมนฮัตตัน หลังจากตรวจสอบแล้วไม่ผ่านการประเมินภาษีเงินได้บุคคล เป็นเหตุให้ครอบครัวของแฟรงค์ต้องแตกร้าวพ่อแม่หย่าร้างแยกทางกัน ในขณะที่แฟรงก์ อายุ 16 ปี ก่อนจะตัดสินใจหนีออกมาจากบ้าน ด้วยเงินติดตัวเพียง 200 ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น
อาบเนล ใช้ชีวิตนักต้มตุ๋นเต็มตัวจากการที่เค้าพบว่าระบบเช็คขึ้นเงินของธนาคารไม่มีประสิทธิภาพในการตรวจสอบมากนักกว่าจะตรวจสอบเจอว่าเช็คปลอมก็ใช้ระยะเวลานานมากๆ เค้าคงจะไหวตัวไปซะก่อนแล้ว จึงเริ่มปลอบเช็คเงินของธนาคารขึ้นมาและเข้าไปเบิกเงินนอกจากชุดที่แลดูภูมิฐานอีกทั้งยังใช้ทักษะ18มงกุฎในการหลอกล่อชวนพนักงานขณะตรวจเช็คคุย ขณะตรวจสอบด้วยวิธีการนี้ทำให้ได้รับเงินไปไม่ต่ำกว่า 4ล้านดอลลาร์สหรัฐ ก่อนจะโดนตรวจสอบได้ในภายหลังโดย คาร์ล แฮนแร็ทตี้ (ทอม แฮงค์)เจ้าหน้าที่เอฟบีไอ แต่แฟรงก์ไหวตัวทันหลบหนีออกจากนิวยอร์ก
ก่อนที่จะตัดสินใจเป็นนักบินสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาขณะนั้น สายการบินแพนแอม(Pan American World Airways)เหตุที่ต้องเป็นนักบินก็เพราะเท่ สาวสวยเยอะ เงินดีและเหมาะสำหรับการหลบหนีคดีของเค้าด้วยเพราะต้องบินไปหลายประเทศ จึงตามตัวจับยากหากไม่มีความร่วมจากต่างชาติ เริ่มต้นด้วยการไปหาข้อมูลศึกษาเกี่ยวกับสายการบินแพนแอม ด้วยวิธีการปลอมตัวเป็นนักศึกษาขอสัมภาษณ์พนักงานของสายการบิน เพื่อไปลงในหนังสือวรสารโรงเรียน รวบรวมเจาะลึกข้อมูลทั้งหมดจนถึงเรื่องขั้นตอนการซักรีดชุดนักบิน โรงงานที่ผลิตบัตรพนักงานและตราเครื่องหมายที่จำเป็นต่างๆของสายการบินแพนแอมหลอกโรงพิมพ์ว่าเป็นตัวแทนจากสายการบินต่างประเทศ สนใจจะให้ทางโรงพิมพ์พิมพ์บัตรพนักงาน จึงขอดูตัวอย่างบัตรพนักงานของสายการบินแพนแอม ก่อนจะนำมาปลอมแปลงบัตรพนักงานเพื่อเข้าไปซื้อตราสัญลักษณ์และเข็มกลัดต่างๆ ของพนักงานสายการบิน อีกทั้งโทรไปแจ้งกับสำนักงานของสายการบินแพนแอมว่า เครื่องแบบผู้ช่วยนักบินของเขาหายระหว่างส่งไปซักอบรีดขณะพักอยู่ในโรงแรมต่างประเทศ และมีความจำเป็นต้องใช้เครื่องแบบด่วนเท่านี้แฟรงก์ อาบเนลก็ได้เป็นผู้ช่วยนักบินเพื่อหวังปลอมเช็คเงินเดือนกวาดเงินไปกว่า2.8 ล้านเหรียญ ก่อนที่ทางเจ้าหน้าทีเอฟบีไอจะเริ่มสงสัยหลังจากตรวจสอบว่าเช็คเงินเดือนของสายการบินแพนแอมเด้งเยอะมาก แต่เช่นเคยแฟรงก์ไหวตัวทันหลบหนีไปที่เมืองเล็กๆในรัฐจอร์เจีย
ในสมัยนั้นโรงพยาบาลต่างๆ ต้องมีกุมารแพทย์ประจำอย่างน้อยหนึ่งคนแห่งหนึ่ง เมื่อมีกุมารแพทย์ลาออก ก็มีผู้ทาบทามให้เขาไปเป็นกุมารแพทย์ที่นั่น เพราะแฟรงก์เคยบอกใครต่อใครในเมืองว่าเค้ามีอาชีพเป็นกุมารแพทย์ จากที่แฟรงก์วางแผนว่าจะมาเก็บตัวหนีคดี จึงจำต้องทำการปลอมแปลงใบอนุญาตกุมารแพทย์เพื่อเป็นหมอในโรงบาลแห่งนั้นเพราะคำพูดของเค้านั่นเอง แต่การเป็นหมอมันไม่ง่ายเลย เค้ากลัวโดนจับได้เพราะความรู้ทางการแพทย์ไม่มีเลยจะรักษาใครยังไง ถึงจะใช้เวลาช่วงกะดึกในการแอบท่องตำราวิชาแพทย์เพิ่มเติมแล้วก็ตาม ในแนวทางรักษาเค้าใช้วิธีพูดจาหว่านล้อมคนไข้ และหลอกล่อหมอท่านอื่นให้มาตรวจรักษาคนไข้ของตนอย่างแนบเนียน เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วแฟรงก์ตระหนักได้ว่า เห็นทีจะไม่รอดแน่กับอาชีพกุมารแพทย์ ก่อนจะโดนจับได้จึงหนีไปอยู่ที่รัฐลุยเซียนา
เบรนด้าคนรักของแฟรงก์แนะนำให้เขารู้จักกับทนายความในสำนักงานอัยการประจำรัฐ กำลังรับสมัครหาผู้ช่วยอยู่ เหตุเพราะเค้าบอกแฟนว่าตัวเองจบปริญญาโทด้านกฎหมาย จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เค้าจึงเริ่มปลอมแปลงเอกสารด้านกฎหมาย จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ไปสอบได้ใบอนุญาตทนายความ ด้วยการที่เค้าต้องอ่านศึกษาตำรากฎหมายด้วยตัวเองเพียงแค่ 2 เดือนแสดงถึงความจำของเค้า แต่อย่างไรก็ตามเพื่อนร่วมงานในสำนักงานอัยการประจำรัฐก็ดูออกว่าไม่ใช่เพื่อนร่วมสถาบันฮาร์วาร์ดด้วยกันแน่นอน เมื่อรู้ว่าเริ่มไม่เนียนจึงต้องไหวตัวตัดสินใจหนี
ต่อมาเจ้าหน้าทีเอฟบีไอคาร์ล แฮนแร็ทตี้ รวบรวมข้อมูลจนไปถึงเช็คใบล่าสุดของแฟรงก์ที่มีปัญหา นำเช็คไปให้มืออาชีพด้านการพิมพ์สามารถสรุปได้ว่า เช็คนั้นพิมพ์ในฝรั่งเศส จากข้อมูลที่มีอยู่เจ้าหน้าทีคาร์ลจำได้ว่าแม่ของแฟรงค์เกิดที่เมือง Montrichard ประเทศฝรั่งเศส ก่อนจะนำกำลังและขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสเข้าจับกุม แฟรงก์ อบาเนล ในฐานะอาชญากรที่เอฟบีไอ รวมถึงหลายประเทศต้องการตัวมากที่สุด จากการให้เบาะแสของแอร์โฮสเตสสายการบินฝรั่งเศส (Air France)เขาโดนรวบตัวในฝรั่งเศส ถูกคุมขังอยู่ที่นั่น 6 เดือน แล้วถูกส่งไปขึ้นศาลและติดคุกที่สวีเดน 1 ปี ก่อนถูกส่งตัวกลับสหรัฐฯ ประเทศบ้านเกิด เค้าได้หลบหนีจากการขนย้ายผู้ต้องหาไปหาแม่และครอบครัวใหม่ของเธอ หลังจากนั้นจึงเข้ามอบตัวรับโทษจำคุก12ปี พอครบได้5ปี เจ้าหน้าทีเอฟบีไอคาร์ล แฮนแร็ทตี้เห็นเสียดายและความสามารถของแฟรงก์ อบาเนล จึงโน้มน้าวให้หน่วยงานเอฟบีไอเสนอชื่อให้แฟรงค์เป็นที่ปรึกษาด้านการป้องกันการฉ้อโกงให้หน่วยงานของรัฐ โดยไม่รับค่าตอบแทนแลกกับอิสรภาพที่จะได้รับ ใช้ชีวิตบั้นปลายกับครอบครัว อยู่ที่มิดเวสต์ ประเทศสหรัฐอเมริกา