The Spiderwick Chronicles 2008 ตำนานสไปเดอร์วิก 2551 ภาพยนตร์อเมริกัน ผจญภัยแฟนตาซี กำกับภาพยนตร์โดยมาร์ค วอเตอร์ อ้างอิงจากหนังสือเขียนโดย โทนี ดิเตอร์ลิซซี และโฮลลี่ แบล็ค The Spiderwick Chronicles 2008 เรื่องราวของหนังสือคำแนะนำเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตในเทพนิยาย ตำนานแฟรี่เทล ที่เขียนโดย อาเธอร์ สไปเดอร์วิค ที่ไม่มีใครเชื่อแต่กลับต้องซ่อนมันเอาไว้ เพราะได้รับรู้ความจริงถึงอันตรายของหนังสือที่เค้าเขียน นำแสดงโดย เดวิด สเตรทธาร์น, แมรี่ หลุยส์ ปาร์กเกอร์, ซาร่าห์ โบลเจอร์, เฟรดดี ไฮร์มอร์, นิค โนลเต้, เซท โรเกน
วันที่ออกฉาย : 14 กุมภาพันธ์ 2551 (สหรัฐอเมริกา)
ผู้กำกับภาพยนตร์ : มาร์ค วอเตอร์
ดัดแปลงจากผลงาน : The Spiderwick Chronicles (2003) · โทนี ดิเตอร์ลิซซี l โฮลลี่ แบล็ค
เขียนบทภาพยนตร์ : แครีย์ เคิร์กแพทริค l เดวิด เบเรนบัม l จอห์น เซยเลส
อำนวยการสร้าง : มาร์ค แคนตัน l แลร์รี่ ฟรังโก้ l อีลเลน โกลด์สมิท-เวน l แครีย์ เคิร์กแพทริค
กำกับภาพ : คาเลบ เดชาเนล
ตัดต่อภาพยนตร์ : ไมเคิล คาห์น
ดนตรีประกอบ : เจมส์ ฮอร์เนอร์
ค่ายผลิต : นิคคาโลเดียน มูฟวี่ l เคนเนดี้/มาร์แชล คอร์ปอเรชั่น l แอทโมสเฟียร์ พิกเจอส์
จัดจำหน่าย/เผยแพร่ : พาราเมาต์ พิกเจอส์
ความยาว : 1 ช.ม. 35 นาที
งบประมาณการสร้าง : 90 ล้านดอลล่าสหรัฐ
รายได้บ็อกซ์ออฟฟิศ : 164.2 ล้านดอลล่าสหรัฐ
ในปี 1928 อาเธอร์ สไปเดอร์วิค ( เดวิด สเตรทธาร์น ) เขียนหนังสือคำแนะนำเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่อยู่จริงเหมือนในเทพนิยาย แต่หลังจากหลงใหลในโลกของมัน จนเขียนหนังสือเล่มนี้เสร็จ กลับได้รับรู้ความจริงถึงอันตรายของหนังสือที่เค้าเขียน เขาต้องซ่อนมันไว้เพราะกลัวว่า จอมมารมัลการัท ซึ่งเป็นปิศาจที่มีคาวมสามารถแปลงร่างเป็นอะไรก็ได้ วางแผนที่จะใช้ความลับของหนังสือเพื่อยึดครองโลกแห่งเทพนิยาย ก่อนที่เค้าจะหายตัวไปอย่างลึกลับ จนบ้านหลังนี้สืบทอดมรดกต่อกันมาถึงปัจจุบัน
แปดสิบปีต่อมาเฮเลน เกรซ (แมรี่ หลุยส์ ปาร์กเกอร์) แม่หม้ายที่พึ่งหย่าร้างกับสามีเมื่อไม่นานมานี้ เธอได้รับมรดกเป็นบ้านหลังหนึ่ง จึงตัดสินใจย้ายเข้ามาอยู่เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่กับลูก ๆ ของเธอ ลูกลูกสาวคนโตมัลลอรี่ เกรซ ( ซาร่าห์ โบลเจอร์ ) และลูกชายฝาแฝดจาเร็ดและไซม่อน เกรซ ( เฟรดดี ไฮร์มอร์ ) จาเร็ดไม่พอใจกับการย้ายบ้านครั้งนี้และอยากจะอยู่กับพ่อมากกว่าแม่ จาเร็ดเริ่มออกสำรวจไปทั่วบ้านได้พบกับ สิ่งมีชีวิตประหลาด บล็อกการ์ด ที่มีหน้าที่เฝ้าหนังสือของอาเธอร์ สไปเดอร์วิค ให้ปลอดภัยห้ามออกจากตัวบ้าน แต่ครอบครัวของจาเร็ดเไม่มีใครเชื่อเขาเลย
ในวันต่อมา จาเร็ดได้เจอกับบล็อกการ์ดโดยการเอาน้ำผึ้งไปล่อเป็นเหยื่อ เค้าคือบล็อกการ์ด ชื่อทิมเมอร์ทัค ลักษณะเหมือนหนูผสมคน ผู้ชอบน้ำผึ้งเป็นชีวิตจิตใจ มีนิสัยสองบุคลิคทั้งโกรธเกรี้ยวและใจดี หน้าที่ของเขก็คือเฝ้าหนังสือสำคัญเล่มนี้ เค้าบอกเรื่องราวความจริงทั้งหมด ว่าภายนอกบ้านนั้นมีพวกก๊อบลิน สมุนของจอมมารมัลการัท ( นิค โนลเต้ ) ที่ต้องการหนังสือเล่มนี้ เพราะมีข้อมูลจุดอ่อนของสิ่งมีชีวิตในเทพนิยายทุกประเภท หากจอมมารได้ไปมันจะฆ่าล้างบางจนสูญพ้นธ์กันหมดแน่ แต่มนุษย์ธรรมดาจะไม่สามารถมองเห็นสิ่งมีชีวิตพวกนี้ได้ จะต้องมองผ่านหินเครื่องรางเท่านั้น เน้นย้ำอีกทีว่าห้ามเอาหนังสือออกนอกตัวบ้าน เพราะบ้านนี้มีเขตอาคมล้อมไว้อยู่พวกมันไม่สามารถเข้ามาได้ หากอยู่ภายในบ้านจะปลอดภัยที่สุด
แต่ไม่ทันการแล้วสมุนก๊อบลินตนหนึ่ง เห็นหนังสือเล่นนั้นและนำข่าวกลับไปบอกเจ้านายของตน ทำให้ไซม่อนฝาแผดของจาเร็ด ถูกลักพาตัวไปที่แคมป์ของพวกก๊อบลิน เผชิญหน้ากับมัลการัทที่อยู่ในร่างชายแก่ จาเร็ดเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดจึงแอบตามออกไปช่วยฝาแฝดของเค้า ที่แคมป์เขาได้พบกับ ฮอร์คสควีล( เซท โรเกน ) ภูติผู้ชอบกินนกเป็นชีวิตจิตใจ ลักษณะเหมือนหมูแต่มีหลายจมูก มีความสามารถในการมอบการมองเห็นภูติโดยไม่ต้องใช้หินเครื่องราง โดยการคายสเลดใส่ในตาของคน คนน้้น มัลการัทถามไซม่อนถึงหนังสือแต่แน่นอนเค้าต้องไม่รู้เรื่องนี้ ก่อนที่จาเล็ตจะเปิดเผยว่าหนังสืออยู่ที่เค้า เพื่อหาจังหวะช่วยฝาแฝดของตนออกมาได้ ก่อนที่พวกเขาจะถูกไล่ล่าโดยพวกก๊อบลิน ฝาแฝดทั้งสองหนีกลับไปที่บ้านโดยได้รับความช่วยเหลือจาก พี่สาวโตมัลลอรี่ ที่ปัจจุบันเชื่อคำพูดของจาเร็ดน้องชายแล้ว เพราะมองเห็นพวกมันผ่านหินเครื่องรางที่เค้ามอบให้ พร้อมออกไปฟันดาบต่อสู้กับพวกมันเพื่อปกป้องน้อง ๆ เด็กทั้งสามคนรอดมาได้เมื่อพวดเค้าเข้ามาในบริเวณบ้าน ที่บล็อกการ์ดเคยบอกว่ามีเขตอาคมที่วางไว้เป็นหินแนวรอบบ้าน พวกเด็ก ๆ พยายามทำลายหนังสือด้วยวิธีกานต่าง ๆ แตเก็ไม่เป็นผล จึงตัดสินใจแก้ปัญหาเรื่องนี้โดยไปขอความช่วยเหลือจากคนที่รู้เรื่องนี้ดีที่สุด คุณยายลูซินด้า สไปร์ควิค ( โจน พลาวไรต์ ) ลูกสาวคนเดียวของอาเธอร์ สไปเดอร์วิค
พวกเค้าวางแผนให้ไซมอนหลอกล่อเบี่ยงเบนความสนใจ ให้พวกก๊อบลินเข้าใจว่าหนังสืออยู่ที่เค้า เพื่อให้มัลลอรี่และจาเร็ดหลบหนี ใช้เส้นทางอุโมงค์ใต้ดินในการเดินทาง แต่ก็ยังโดนไล่ล่าโดยโทรลล์มุดดิน พวกเขาหลบหนีออกมาได้อย่างหวุดหวิด จาเร็ดพบคุณยายลูซินด้ายังอาศัย อยู่ที่ห้องในโรงพยาบาลจิตเวช ล้อมรอบด้วยเหล่าภูติตัวจิ๋วเพื่อนของเธอ ที่แอบอยู่บริเวณนั้น เธอบอกเด็ก ๆ ว่าเธอไม่สามารถช่วยได้ พวกเขาจำเป็นต้องตามหาพ่อของเธอ ให้เขาทำลายหนังสือและนั่นเป็นเวลาแปดสิบปีที่อาเธอร์ถูกจับโดยเหล่าภูติซิลฟส์ ที่สามารถทำให้คนตกอยู่ในภวังค์จนหลงลืมการเวลา ในระหว่างที่ทั้งสามสนธนากันพวกก๊อบลินบุกเข้าโจมตีพวกและพวกมันสามารถฉีกหน้าหนังสือไปได้ส่วนหนึ่ง ก่อนที่จะถูกล่าถอยออกไป หนึ่งในบรรดาหน้าหนังสือที่จอมมารมัลการัทได้มันไปนั้น มันคือวิธีการทำลายเขตอาคมที่ล้อมบ้านเอาไว้ หลังจากเรื่องวุ่นวายที่โรงพยาบาล มัลลอรี่และจาเร็ดถูกรับตัวกลับบ้านโดย เฮเลนแม่ของพวกเค้า เด็ก ๆ พยายามบอกเรื่องเล่าราวทั้งหมดแต่แม่กลับไม่เชื่อพวกเค้า ทำให้จาเร็ดลูกชายคิดน้อยใจว่าแม่เกียดเค้าและเค้าก็อยากอยู่กับพ่อมากว่าอยู่แล้ว
ต่อมา ภูติฮอร์คสควีลที่เคยช่วยจาเร็ด ได้รีบไปบอกกับเด็ก ๆ เกี่ยวกับแผนของจอมมารมัลการัทที่จะทำลายเขตอาคม ในคืนพระจันทร์เต็มดวงที่จะถึงนี้ ก่อนที่ภูติฮอร์คสควีลจะวิ่งตามนกหายไปตามนิสัยของมัน เจเร็ด ไซมอนและมัลลอรี่ ใช้หนังสือเล่มนี้เพื่อเรียกกริฟฟินนกผสมสิงโต เพื่อนำพวกเขาไปสู่อาณาจักรของซิลฟส์ ที่นั่นพวกเขาพบกับอาเธอร์ที่มีศักดิ์เป็นทวดของพวกเค้า แต่เค้าไม่แก่เลยเพราะตกอยู่ในภวังค์กาลเวลา ห้อมล้อมเต็มไปด้วยภูติซิลฟส์ ที่เหมือนดอกคอตตอนบินไปในอากาศ เขาไม่รู้สึกตัวจนทั้งสามเค้าไปทัก ทั้งหมดเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้อาเธอร์ฟังและขอให้เขาทำลายหนังสือเล่มนี้ แต่หนังสือกลับเป็นเล่มปลอม ที่บล็อกการ์ดทิมเมอร์ทัค ได้สลับหนังสือเล่มจริงเก็บไว้ที่บ้าน ตามหน้าที่ไม่ยอมให้จาเร็ดถืออีกต่อไป หลังจากไว้ใจจนเกิดเหตุการณ์คราวที่แล้ว อาเธอร์บอกถึงอันตรายของที่นี่ว่าพวกภูติซิลฟส์ จะไม่ยอมให้ใครที่รู้เรื่องภูติมากเกินไปอย่างพวกเรา ออกไปจากอาณาจักรซิลฟส์ อาเธอร์จึงช่วยโดยการใช้หนังสือปลอมหลอกล่อให้พวกภูติซิลฟส์บินตามเค้า ให้เด็ก ๆ ได้มีโอกาสหลบหนี ซึ่งทวดอาเธอร์ไม่สามรถกลับไปที่โลกปัจจุบันได้ ร่างกลายเค้าจะค่อยแก่จนสลายไปตามเวลาจริง
เมื่อกลับถึงบ้านเด็ก ๆ เตรียมการป้องกันโดยการใช้ของในครัว ซอสมะเขือเทศและเกลือที่สามารถสังหารพวกก๊อบลินได้ ในคืนนั้นพระจันทร์เต็มดวง พวกก๊อบลินบุกเข้าตัวบ้านพวกเค้าสู้สุดความสามารถ ส่งผลให้ก๊อบลินโดนสังหารไปหลายตัว ทันใดนั้นริชาร์ดพ่อของพวกปรากฏตัวเพื่อมาช่วยคนในครอบครัว แต่จาเร็ดรู้ทันและความมีดมาแทงเค้าเผยให้เห็นว่าความจริงคือ จอมมารมัลการัทปลอมตัวมา มันกลายร่างคืนกลับร่างเดิมเป็นปีศาจที่น่ากลัว ไล่ต้อนเจเร็ดและครอบครัวเพื่อต้องการให้ส่งมอบหนังสือให้ พวกเค้าวิ่งหนีสุดชีวิตขึ้นไปจนมุมที่บนหลังคาบ้าน เมื่อหมดทางหนีเจเร็ดคิดได้จึงตัดสินใจโยนหนังสือไปบนอากาศ จอมมารมัลการัทจึงเปลี่ยนร่างเป็นอีกาเพื่อตามคาบหนังสือ แต่ทันใดนั้นเขาก็กลับถูกคว้าตัวและกินอย่างรวดเร็วโดย ภูติฮอร์คสควีลที่ชอบกินนกเป็นชีวิตจิตใจ โดยที่เจ้าตัวไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำ หลังจากเหตุการณ์อันตรายผ่านไปเฮเลนผู้เป็นแม่ ก็เข้าใจและเชื่อในคำพูกของลูกมากขึ้น หลายสัปดาห์ต่อมาครอบครัวเกรซ พาคุณยายลูซินด้ามาเยี่ยมบ้าน พร้อมกับการมาของภูติซิลฟส์ ที่พาอาเธอร์ สไปเดอร์วิคมารับคุณยายลูกสาวที่จากกันไปนาน เพื่อกลับไปที่อาณาจักรภูติซิลฟส์
