Snowpiercer 2013 ยึดด่วน วันสิ้นโลก 2556 ภาพยนตร์แนวแอคชันดราม่าวิทยาศาสตร์ ดัดแปลงจากนิยายภาพภาษาฝรั่งเศสเรื่อง Le Transperceneige(1982)เขียนโดย ฌาคอบ ลอฟท์ เบนจามิน รีแกรน และ ฌ็อง-มาร์ โรเชต กำกับและเขียนบทภาพยนตร์โดย บง จุนโฮ ร่วมเขียนบทกับเคลลี่ มาสเตอร์สัน Snowpiercer 2013 เป็นการร่วมผลิตระหว่างเกาหลีใต้และสาธารณรัฐเช็กด้วยงบประมาณ 40 ล้านเหรียญสหรัฐและยังถือเป็นการผลิตที่แพงที่สุดของเกาหลีเลยทีเดียว แต่ประมาณ80% ของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยังถ่ายทำเป็นภาษาอังกฤษ ภาพยนตร์เรื่องนี้เกิดขึ้นบนรถไฟสโนว์เพียร์เซอร์ซึ่งทำงานบนเส้นทางที่ทอดยาวไปทั่วโลกโดยเป็นความหวังสุดท้ายสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ของมนุษยชาติหลังจากความพยายามด้านวิศวกรรมสภาพอากาศเพื่อหยุดภาวะโลกร้อนได้สร้างสโนว์โกล์บขึ้นและไม่สามารถควบคุมได้ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่บนโลกถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งหนาวเหน็บไม่สามารถอยู่อาศัยได้อีกต่อไป เคอร์ติส เอเวอเร็ตต์ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มผู้โดยสารรถไฟที่ปจจุบันถูกแบ่งชนชั้นวรรณะ เขาเป็นผู้นำในการก่อปฏิวัติต่อต้านการกดขี่ครั้งนี้ ภาพยนตร์นำแสดงโดยคริส อีแวนส์, เจมี่ เบลล์, จอห์น เฮิร์ท, ซอง คังโฮ, โก อาซอง,เอ็ด แฮร์ริส, ทิลดา สวินตัน, อีเวน เบรมเนอร์, ลุค ปาสวาลิโน, ออคตาเวีย สเปนเซอร์
วันที่ออกฉาย : 1 สิงหาคม 2556 (เกาหลีใต้)
ผู้กำกับภาพยนตร์ : บง จุนโฮ
ดัดแปลงจากผลงาน : Le Transperceneige(1982) · ฌาคอบ ลอฟท์ l เบนจามิน รีแกรน l ฌ็อง-มาร์ โรเชต
เขียนบทภาพยนตร์ : บง จุนโฮ l เคลลี่ มาสเตอร์สัน
อำนวยการสร้าง : จอง แทซอง l สตีเว่น นัม l ปาร์ค จันวุค l ลี แทฮัน
กำกับภาพ : ฮงคยอง เพียว
ตัดต่อ : สตีเว่น เอ็ม ชอว์ l คิม ชางจู
ดนตรีประกอบ : มาร์โก้ เบลทรามี่
ค่ายผลิต : โมโฮ ฟิล์ม l ออพัท พิคเจอร์ส l ยูเนี่ยน อินเวสเมนท์ พารืทเนอร์ l สติงกิง ฟิล์ม
จัดจำหน่าย/เผยแพร่ : เวนสไตน์ จำกัด l ซีเจ เอนเตอร์เทนเมนท์
ความยาว : 2 ชม. 6 นาที
งบประมาณการสร้าง : 40 ล้านดอลล่าสหรัฐ
รายได้บ็อกซ์ออฟฟิศ : 86.8 ล้านดอลล่าสหรัฐ
หลังจากความพยายามที่ล้มเหลวในการหยุดภาวะโลกร้อนผ่านวิศวกรรมสภาพอากาศทำให้เกิดยุคน้ำแข็งใหม่ในปี 2014 มนุษยชาติที่เหลือรอดได้ถูกพาไปใชัชีวิตอยู่ขบวนรถไฟที่แล่นรอบโลกเป็นแหล่งที่พักสุดท้ายของมนุษยชาติเพราะข้างนอกหนาวเหน็บเต็มไปด้วยหิมะ ขบวนรถไฟขบวนนี้เรียกว่าSnowpiercer ซึ่งดำเนินการโดยคุณวิลฟอร์ด(เอ็ด แฮร์ริส) ต่อมาอีในยี่สอบปีภายในปี 2031ผู้โดยสารบนรถไฟได้มีการแบ่งแยกชนชั้นโดยชนชั้นสูงจะอยู่ในส่วนด้านหน้าที่หรูหราในขณะที่คนจนถูกบังคับให้เข้าสู่ด้านหลังเป็นส่วนของห้องเก็บสัมภาระท้ายขบวนโดยกำลังทหารติดอาวุธควบคุมดูแลอยู่ โดยที่พวกเค้าโดนกดขี่ทั้งอาหารและความเป็นอยู่ที่มีหัวหน้าหญิงผู้ที่ถูกแต่งตั้งให้เป้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเมสัน (ทิลดา สวินตัน)อีกทั้งนโยบายที่จะจับเอาเด็กๆไปไว้ที่ส่วนหน้าของขบวนโดยที่ไม่ได้กลับมาอีกเลย
เคอร์ติส เอเวอเร็ตต์(คริส อีแวนส์)และเอ็ดการ์(เจมี่ เบลล์)ผู้นำกลุ่มชนท้ายขบวน โดยมีกิลเลียม(จอห์น เฮิร์ท)เป็นผู้นำในการประท้วงที่ถูกกดขี่ชนชั้นหลังจากที่วางแผนการก่อกบฏมานาน หลังจากที่พวกเขารู้ว่าข่าวว่าอาวุธของทหารยามไม่มีกระสุน เค้าตัดสินใจใช้กำลังเข้าปะทะทำให้กำลังทหารถอยร่นไปกลุ่มผู้ระท้วงนำโดยเคอร์ติส เข้ามาสู่ขบวนห้องคุมขังได้ไปพบกับอดีตนัมกุง มินซู (ซอง คังโฮ)เป็นผู้เชี่ยวชาญอิเล็คทรอนิคส์ด้านความปลอดภัยและลูกสาวโยน่า(โก อาซอง ) ที่ทั้งคู่ได้ติดก้อนแร่ที่นำมาใช้ให้พลังงานเรียกว่าโคลโนล ออกฤทธิ์เป็นสารเสพติดชนิดหนึ่งนัมกุงออกตัวของแลกกับการเปิดประตูหนึ่งบานต่อหนึ่งก้อน
กลุ่มผู้ปฏิวัติที่นำโดยเคอร์ติสได้เดินทางผ่านห้องผลิตอาหารที่ได้พบความจริงว่าพวกเค้ากินแมลงที่จับได้ตามขบวนรถมาทำเป็นก้อนโปรตีนให้พวกเค้าแย่งกันกินจนเดินไปถึงกลางขวบนพบกับเจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธครบมือเต็มกำลังรอปะทะอยู่โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเมสัน ในการต่อสู้เอ็ดการ์คนสนิทของเคอร์ติสถูกฆ่าเพื่อเสียสละที่จะได้จับรัฐมนตรีเมสันและใช้เป็นตัวประกันต่อรองเพื่อยุติการต่อสู้ และนำกลุ่มผู้ปฏิวัติที่เหลือรอดชีวิตมีแอนดูรว์(อีเวน เบรมเนอร์), เกรย์(ลุค ปาสวาลิโน), ทันย่า(ออคตาเวีย สเปนเซอร์)เดินทางต่อเพื่อบรรลุเป้าหมายที่หัวขบวน เมื่อผ่านกลางขบวนมาพวกเค้าต้องตกตะลึงกลับความหรูหราทั้งฟารืมเกษตร หรือแม้กระทั่งอควอเรี่ยมเลี้ยงปลาที่มีปลาสดมาทำซูชิให้ชนชั้นสูงได้ทานกันต่างจากพวกเค้าที่มาจากท้ายขบวนต้องกินแต่ก้อนโปรตีนมาตลอดชีวิต
นายช่างวิศวกรนัมกุง มินซูและลูกสาวโยน่ารับรู้ได้ถึงการละลายตัวของน้ำแข็งข้างนอกเพราะพวกเค้าสังเกตเห็นน้ำแข็งที่ละลายจางลงทุกๆปีเป้นสัญญาณว่าข้างนอกเริ่มร้อนขึ้น ในที่สุดกลุ่มผู้ปฏิวัติก็มาถึงห้องเรียนซึ่งครูทำการปลูกฝังให้เด็กๆ ให้เชื่อหลงไหลในความยิ่งใหญ่ของคุณวิลฟอร์ดผู้สร้าง ก่อนที่พวกเขาจะเฉลิมฉลองปีใหม่เพื่อทำเครื่องหมายว่าขบวนรถไฟได้ผ่านรอบโลกแล้วหนึ่งรอบ ก่อนที่คุณครูจะโจมตีใส่กลุ่มทำให้แอนดูรว์เสียชีวิต ก่อนที่เกรยืจะลงมือสังหารเธอ ทันใดนั้นได้มีกลายฉายการถ่ายทอดการประหารหัวหน้าแกนนำปฏิวัติกิลเลียมพ่อของเคอร์ติส เค้าจึงสังหารรัฐมนตรีเมสันที่เค้าจับเป้นตัวประกันทิ้งและเดินทางไปยังหัวขบวนต่อไป ก่อนที่หัวหน้าเจ้าหน้าที่และกำลังที่เหลือได้เข้ามาขัดขวางพวกเค้าเป็นการปะทะครั้งสุดท้ายเป็นเหตุให้ทุกคนเสียชีวิตโดยมีเคอรืติส นัมกุง และลูกสาวโยน่ารอดมาได้
พวกเขามาถึงขบสนสุดท้ายก่อนเข้าไปนายช่างนัมกุงได้เปิดเผยว่าเขากับโยน่ารวบรวม โคลโนล ซึ่งเป็นยาเสพติดแต่แท้จริงแล้วมีเจตนาที่จะนำไปทำเป็นระเบิดซึ่งเขาต้องการใช้ในการระเบิดประตูออกไปข้างนอกขบวนรถไฟเพราะเชื่อว่าตอนนี้มนุษย์สามารถอยู่รอดภายนอกได้แล้ว แต่เคอร์ติสก็ยืนยันที่ต้องการจะพบกับวิลฟอร์ดให้ได้เพื่อถามว่าทำไมเขาถึงสร้างระบบนิเวศที่ปิดนี้ ทันใดนั้นประตูเครื่องยนต์ก็เปิดออกและวิลฟอร์ดก็โผล่ออกมาและทำให้ก่อนที่จะเชิญเคอร์ติสเข้าไปข้างใน เคอร์ติสพบกับวิลฟอร์ดและเค้าเริ่มอธิบายถึงความสัมพันธ์รหว่างเค้ากับกิลเลี่ยมว่าพวกเขาทำงานร่วมกัน ตั้งใจร่วมกัยวางแผนเพื่อให้เคอร์ติสก่อกบฏขึ้นเพื่อลดจำนวนประชากรลง 74% เพื่อรักษาชีวิตบนรถไฟที่เหลือ วิลฟอร์ดกับกิลเลี่ยมแบ่งกันควบคุมเค้าควบคุมประชากรส่วนหน้าและกิลเลี่ยมคุมประชากรส่วนหลังจึงทำให้ผู้คนที่อยู่ท้ายขบวนเคารพเค้าเหมือนเป็นผู้นำเหมือนกับส่วนหน้าที่นำถือวิลฟอร์ดดุจพระเจ้า
วิลฟอร์ดเสนอให้เคอร์ติสรับบทบาทเป็นผู้นำรถไฟแทน เคอร์ติสพร้อมที่จะยอมรับก่อนที่จะรับรู้ความจริงว่ารถไฟขบวนนี้ขับเคลือนด้วยกำลังทาสจากการจับเด็กๆที่อยู่ส่วนหลังขบวนมาทำงานจนตายตั้งแต่ยังเล็ก เมื่อเปิดกระานที่พื้นของส่วนหัวขบวนก็พวกกับเด็กจำนวนมากท่โดนจับมาจากส่วนท้ายขบวนที่ทำงานเป็นเครื่องยนต์ทาสรวมถึงทิมมี่ลูกของทันย่าที่ร่วมสู้มากับเค้า เคอร์ติสโจมตีใส่วิลฟอร์ดและช่วยทิมมีจากเครื่องจักร เจ้าหน้าที่เหลือได้ตามมาถึงส่วนหน้าของขบวนเคอร์ติสตัดสินใจจุดชนวนระเบิด ทำให้รถไฟตกรางและทุกอย่างหยุดชงักไปหลังจากนั้นไม่นานโยน่าและทิมมีที่รอดจากซากปรักหักพังของรถไฟเดินออกมาจากขบวนและมองไปหมีขั้วโลกที่อยู่ไกลทำให้มั่นใจได้ว่าสิ่งมีชีวิตสามารถดำรงค์อยู่ได้แล้วในสถาวะปกติ
รางวัลที่ได้รับ :
Grand Bell Award สาขาออกแบผลงานภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
พ.ศ. 2556 · อังเดร เนควาสซิล
Blue Dragon Film สาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
พ.ศ. 2556 · บง จุนโฮ
Blue Dragon Film Award สาขาออกแบผลงานภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
พ.ศ. 2556 · อังเดร เนควาสซิล
แพ็กซัง อาร์ตส์ อวอร์ดส์ รางวัล สาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
พ.ศ. 2557 · บง จุนโฮ
Grand Bell Award สาขาตัดต่อภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
พ.ศ. 2556 · คิม ไอหลิง-จู, สตีฟ เอ็ม. โช
