Cars 2006 4 ล้อซิ่ง…ซ่าท้าโลก ภาพยนตร์คอมเมดี้ คอมพิวเตอร์แอนิเมชั่น ที่ผลิตโดย พิกซาร์แอนิเมชัน สตูดิโอ จำหน่ายโดย วอลท์ดิสนีย์ พิกเจอส์ สตูดิโอ กำกับการแสดงและร่วมเขียนโดย จอห์น ลาสเตอร์ จากบทภาพยนตร์โดย แดนโฟเกล แมน มันเป็นภาพยนตร์ที่ผลิตโดยอิสระตัวสุดท้ายของพิกซาร์ก่อนซื้อโดยดิสนีย์ในเดือนมกราคม 2549 เรื่องราวเกี่ยวกับโลกที่ รถยนต์หรือยานพาหนะสามารถสื่อสารกันได้เหมือน มนุษย์ บนท้องถนนของอเมริกา ไลท์นิ่ง แม็คควีน นักแข่งมือใหม่ไฟแรง ที่บังเอิญหลงไปในเมือง เรดิเอเตอร์ สปริงค์ เป็นบทบาทการแสดงครั้งสุดท้ายของพอล นิวแมน ที่ร่วมให้เสียงพากษ์กับนักแสดงอีกมากมายหลายท่านอย่าง โอเว่น วิลสัน, บอนนี่ ฮัน, มาร์คัส “โทนี” ชาลู, ชีค มาริน, ไมเคิล วอลลิส, จอร์จ คาร์ล, พอล ดูลีย์, เจนนิเฟอร์ ลูอิส, จอห์น แรทเซนเบอร์เกอร์, ไมเคิล ชูมัคเกอร์, เจย์ เลโน
วันที่ออกฉาย : 9 มิถุนายน 2549 (สหรัฐอเมริกา)
ผู้กำกับภาพยนตร์ : จอห์น ลาสเตอร์
เขียนบทภาพยนตร์ : แดน โฟเกิลแมน l จอห์น ลาสเตอร์ l โจเซฟ เฮนรี่ แรนฟ์ l คีล เมอเรย์ l พริว โรลิน l โจเกน คลูเบียน
เนื้อเรื่องภาพยนตร์ : จอห์น ลาสเตอร์ l โจเซฟ เฮนรี่ แรนฟ์ l โจเกน คลูเบียน
อำนวยการสร้าง : ดาร์ล่า เค. แอนเดอร์สัน
กำกับภาพ : เจอรามี ลาสกี l ฌอน ครอส โคลาสชจี
ตัดต่อภาพยนตร์ : เคน เชรคแมน
ดนตรีประกอบ : แรนดี้ นิวแมน
ค่ายผลิต : พิกซาร์แอนิเมชัน สตูดิโอ l วอลท์ดิสนีย์ พิกเจอส์ สตูดิโอ
จัดจำหน่าย/เผยแพร่ : บัวนาวิสต้า วอลท์ดิสนีย์พิกเจอส์ จำกัด
ความยาว : 1 ช.ม. 56 นาที
งบประมาณการสร้าง : 120 ล้านดอลล่าสหรัฐ
รายได้บ็อกซ์ออฟฟิศ : 462 ล้านดอลล่าสหรัฐ
Cars 2006 ในโลกที่เต็มไปด้วย ยานพาหนะที่สามารถพูดคุยและใช้ชีวิตเหมือนมนุษย์ การแข่งขันรอบสุดท้ายของการแข่งขันชิงแชมป์ “พิสตัน คัพ” จบลงด้วยการเสมอกันของนักแข่งไวเก๋าอย่า “เดอะคิงส์” เวสเตอร์ กับนักแข่งจอมโกง ชิค ฮิกส์ และนักแข่งมือใหม่ไฟแรง ไลท์นิ่ง แม็คควีนที่เข้าเส้นชัยแบบปลายลิ้นจริงๆ ทั้งหมดต้องไปแข่งขันตัดสินแบบไตรเบรคเกอร์ ที่กำหนดไว้ว่าจะแข่งหลังจากนี้หนึ่งสัปดาห์ ไลท์นิ่ง ทะเยอทะยานหวังที่จะชนะการแข่งขันไม่เพียงแต่ ฝันที่จะเป็นมือใหม่คนแรกที่ชนะคว้าแชมป์ในรายการแข่ง พิสตัน คัพ และอาจจะได้เซ็นสัญญากับบริษัทใหญ่ ไดโนโค่ ให้เป็นผู้สนับสนุนหลัก แต่ปัจจุบันผู้สนับสนุนของเค้าเป็นเพียงแค่ยี่ห้อน้ำยาเคลือบรถ Rust-Eze เค้าพยายามจะเดินทางไปสนามแข่งโดยเร็วที่สุดเพื่อไปซ่อมตามความฝันของเค้า เขาบังคับให้แม็ครถเทรลเลอร์ทีมงานรถขนรถแข่ง วิ่งยาวเพื่อเดินทางตลอดทั้งคืน ในขณะที่ตัวไลท์นิ่งเองกำลังนอนหลับแม็ครถเทรลเลอร์เกิดหลับใน จนมีรถแว๋นมาแซวทำให้เค้าตกใจเผลอเปิดประตูหลัง ทำให้ไลท์นิ่งที่กำลังหลับอยู่ไหลตกลงบนถนน ไลท์นิ่งตื่นขึ้นมากลางการจราจรบนถนนหลวงเค้าเร่งความเร็วตามรถเทรลเลอร์แม็คไปแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เนื่องจากบนถนนหลวงมีรถเทรลเลอร์ที่เหมือนแม็คมากมาย จนไม่รู้จะตามคันไหนดี ไลท์นิ่งออกตามหาความช่วยเหลือไปในเมืองบนถนนสายเก่าที่มีแดดร้อนจัดที่ชื่อว่า เรดิเอเตอร์ สปริงค์ ซึ่งเขาดันไปทำถนนเสียหายโดยไม่ได้ตั้งใจที่ทางเท้าของถนนสายหลัก
ไลท์นิ่ง แม็คควีน หลังจากถูกจับกุมและได้รับคำสั่งตัดสินจากผู้พิพากษาเมืองดอจ ฮัดสัน ให้ออกจากเมือในงทันที อย่างไรก็ตามทนาย แซลลี คาร์เรร่า ทนายความท้องถิ่นเสนอให้ไลท์นิ่งควรได้รับโทษบำเพ็ญประโยชน์ บริการชุมชนโดยการปูถนนให้ใหม่ ซึ่งผู้พิพากษาเมืองดอจ เห็นด้วยอย่างไม่เต็มใจนัก เมื่อไลท์นิ่ง แม็คควีน นักแข่งรถอันดับต้นๆ ต้องมาเคลื่อนตัวไปบนถนนอย่างเชื่องช้าด้วยความเร่งรีบที่สุด ในการลากรถขนยางมะตอยเพื่อซ่อมทางในเมืองจนเกือบเสร็จ แต่ยังไม่พ้นได้รับคำสั่งให้รื้อมันอีกครั้งเมื่อดอจ ฮัดสันที่มาในคราบของนายอำเภอ มาตรวจแล้วพบว่ามันฉุ่ยมากจากความเร่งรีบของเค้า ในช่วงเวลาที่เค้าใช้ชีวิตอยู่ในเมืองได้รู้จักชีวิตความเป็นอยู่ของคนในเมืองนี้ ได้พบเพื่อนใหม่ เมเทอร์รถลากสนิทกัง สุดเพี้ยนที่ชวนไลท์นิ่งทำอะไรแผงๆ เล่นสนุกกันอยู่ประจำ รุจิเจ้าของร้านขายยางที่มีคู่หูมีความสามารถเปลี่ยนยางด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชือ
และได้ที่พักเป็นโมเทลให้เช่าของทนายแซลลีรถปอร์เชสุดเฉียบ ปี 2002ที่ไลท์นิ่งเริ่ม ตกหลุมรัก ทั้งสองสนิทกันมากขึ้น จนเธอเล่าให้เค้าฟังว่า ในอดีตเมืองนี้เคยเป็นที่นิยม เป็นสถานที่พักรถที่ดีที่สุในถนน US Route 66 สายเก่า จนกระทั่งมีการก่อสร้างถนนไฮเวย์ตัดผ่านสายเก่าไป จึงไม่ค่อยมีใครใช้ถนนเส้นนี้อีกเลยทำให้ที่นี่หมดความนิยมตามไปด้วย และส่วนใหญ่ก็ถูกลืมเช่นเดียวกับดอจ ฮัดสัน ที่ไลท์นิ่งค้นพบรูปในโรงนาและถ้วยรางวัลเก่า ทำให้รู้ว่าอดีตดอจเคยเป็น ” Fabulous Hudson Hornet ” ที่มีชื่อเสียงเป็นผู้ชนะการแข่งขันรถ พิสตัน คัพ 3ครั้งติดต่อกัน ซึ่งอาชีพการแข่งจบลงก่อนเวลาอันควรจากอุบัติเหตุการชนที่รุนแรงในปี 1954 แต่เค้าถอดใจจากวงการตั้งแต่นั้นมา ดอจ ฮัดสัน ได้สอนไลท์นิ่งเข้าโค้งที่สมบูรณ์แบบโดย ถ้าเลี้ยวขวาให้หักพวงมาลัยมาซ้าย ถ้าเลี้ยวซ้ายให้หักพวงมาลัยมาขวา ในตอนเข้าโค้งจะไม่เสียความเร็ว
ในการแข่งขันชิงแชมป์ถ้วย “พิสตัน คัพ” รอบตัดสินเป็นการแข่งขันสามคน เนื่องจากสนามที่แล้วผลออกมาเสมอกันระหว่าง”เดอะคิงส์” เวสเตอร์, ชิค ฮิกส์ และไลท์นิ่ง แม็คควีน ในการแข่งขันไลท์นิ่ง ไม่มีกำลังใจในการแข่งขันจนเค้าได้ยินเสียงหัวหน้าทีมผ่านทางหูฟังเป็นเสียงของดอจ ฮัดสัน พร้อมทั้งเสียงเฮลั่นต้อนรับการกลับมาบนสนาม ของตำนาน” Fabulous Hudson Hornet “เจ้าของแชมป์3สมัยที่ อำลาวงการไปตั้งแต่ปี่ 1954 จากนั้นเขาก็ประหลาดใจเมื่อมองไปข้างสนามพบว่าไม่ใช่แค่ดอจ ฮัดสัน แต่เพื่อนๆ อีกหลายคนของเขาจากเรดิเอเตอร์ สปริงค์ ก็มาช่วยและให้กำลังใจอีกด้วย จากเทคนิคการเข้าโค้งที่ไลท์นิ่งเรียนมาจากดอจ ความเร็วในการเปลี่ยนยางในพิทช็อต ทำให้ไลท์นิ่ง กำลังขึ้นเป้นผู้นำได้อย่างไม่ยาก เมื่อเข้าสู่การแข่งขันรอบสุดท้ายชิค ฮิกส์เล่นตุกติกทำให้ “เดอะคิงส์” เวสเตอร์ เจอกับอุบัติเหตุจนไม่สามารถไปต่อได้ เมื่อไลท์นิ่งหันหลังกลับไปมองเหตุการณ์ เห็นเช่นนั้นนึกถึงชะตากรรมของดอจ ฮัดสัน ในปี54 ก็หยุดก่อนจะถึงเส้นชัยและขับรถกลับไปผลักท้ายเดอะคิงให้เข้าเส้นชัยตามกันไป ฝูงชนที่โกรธแค้นและสื่อต่างๆกล่าวประณามชัยชนะของชิค ฮิกส์ที่ได้มาเพราะโกงตุกติกผู้แข่งขันคนอื่น จนได้รับบาดเจ็บ ในขณะเดียวกันกลับยกย่อง น้ำใจนักกีฬาของไลท์นิ่ง แม็คควีน แม้ว่าจะทางบริษัท ไดโนโค่ เสนอการสนับสนุนเหมือนที่ไลท์นิ่งฝันเอาไว้ แต่เค้าก็ปฏิเสธอย่างสุภาพและเลือกที่จะอยู่กับ Rust-Eze จากความดีซื่อตรงสำหรับการสนับสนุนที่ผ่านมาของพวกเขา เมื่อกลับมาที่ เรดิเอเตอร์ สปริงค์ พบว่าเมืองนี้กลับมาคึกคักอีกครั้งจาการโปรโมทของ ไลท์นิ่ง แม็คควีน ที่ประกาศว่าเขาจะตั้งสำนักงานใหญ่ทีมของเค้าที่นี่