12 years A slave (2013)
หนังยุโรป

12 years A slave (2013)

 12 years A slave (2013)

เรื่องของการเยียดเชื้อชาติ หรือการเยียดสีผิว ถือว่าเป็นเรื่องที่ผู้คนประชากรโลกยังคงพบเห็นกันได้บ้าง และอาจจะเกิดขึ้นได้บ่อย ในแถบซีกโลกฝั่งตะวันตก ซึ่งถึงแม้ว่าในปัจจุบันการเหยียดสีผิว รวมถึงการเยียดเชื้อชาติและรูปลักษณ์ต่าง ๆ จะเป็นที่ไม่ได้รับการยอมรับในสังคม แต่เหตุการณ์ดังกล่าวก็ยังไม่หมดไปจากสังคมโลกนี้ได้อย่างสิ้นเชิง ซึ่งบทความนี้เราขอนำเสนอภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริง และถือว่าเป็นเรื่องสุดแสนสะเทือนใจ ที่ไม่ว่าจะชนชาติใด หรือสีผิวใดก็มิอาจยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงนี้ได้อย่างเต็มใจ กับภาพยนตร์ที่มีชื่อว่า 12 years A slave (2013)

กำกับโดย : สตีฟแม็คควีน
ผลิตโดย : แบรดพิตต์ I เดเดการ์ดเนอร์ I เจเรมีไคลเนอร์ I บิล Pohlad I สตีฟแม็คควีน I อาร์นอนมิลชาน I Anthony Katagas
บทภาพยนตร์โดย : จอห์นริดลีย์
อ้างอิงจาก : สิบสองปีทาส โดย Solomon Northup
นำแสดงโดย :  Chiwetel Ejiofor I Michael Fassbender I Paul Dano I Paul Giamatti I Lupita Nyong’o   I Sarah Paulson I Alfre Woodard
ดนตรีประกอบ : ฮันส์ซิมเมอร์
กำกับภาพ : ฌอนบ็อบบิตต์
ตัดต่อ : โจวอล์คเกอร์

บริษัทผลิต :

รีเจนซี่เอ็นเตอร์ไพรส์
River Road Entertainment
แพลนบีเอนเตอร์เทนเมนต์
New Regency Productions
Film4 โปรดักชั่น

จัดจำหน่ายโดย  :

Fox Searchlight Pictures (อเมริกาเหนือ)
Entertainment One Films (สหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์)
Summit Entertainment (นานาชาติ)
วันที่วางจำหน่าย  :

30 สิงหาคม 2556 ( เทศกาลภาพยนตร์เทลลูไรด์ )
8 พฤศจิกายน 2556 (สหรัฐอเมริกา)
10 มกราคม 2557 (สหราชอาณาจักร)
ความยาวภาพยนตร์ :  134 นาที
ประเทศ : สหรัฐ
ประเทศอังกฤษ
ภาษา  :  ภาษาอังกฤษ
งบประมาณการสร้าง :  20–22 ล้านดอลลาร์
รายได้บ็อกซ์ออฟฟิศ : 187.7 ล้านดอลลาร์

สำหรับภาพยนตร์ 12 years A slave นี้ ได้นำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในช่วงปีค.ศ.1841 โดยนำเรื่องราวชีวประวัติของ โซโลมอน ชายชาวผิวสี ที่ได้รับความเป็นไท และยังมีหน้าที่การงานอันมั่นคง พร้อมกับมีครอบครัวของตนเอง ประกอบไปด้วยภรรยา และลูกที่น่ารักอีก 2 คนด้วยกัน ต้องบอกก่อนเลยว่าในยุคนั้น ชาวผิวสีส่วนใหญ่มากกว่า 80% เหล่าแล้วเป็นทาสของคนผิวขาวเสียทั้งหมด คล้าย ๆ กับยุคสมัยในไทยที่มี ทาส ตามเรือนต่าง ๆ แต่สำหรับในฝากฝั่งตะวันตก ทาส ส่วนเกือบทั้งหมดคือ ชาวผิวสี ที่มีฐานะยากจน และมีส่วนน้อยมากที่ เป็นไท หรือมีการศึกษา หน้าที่การงานทำนั่นเอง

โดยเรื่องย่อของหนังเรื่อง 12 years A slave นั้นเริ่มต้นจาก โซโลมอน ชายผิวสีผู้เปี่ยมไปด้วยความรู้ ความสามารถ และการศึกษามาเป็นอย่างดี โดยเขานั้นเป็นนักดนตรีสีไวโอลีน ซึ่งถือว่าเป็นหน้าที่การงานที่ดี และมีผู้คนให้การยอมรับมากมาย แต่แล้วชีวิตของโซโลมอนกลับพลิกผลัน เมื่อเขานั้นถูกหลอกไปขายให้กับ เจ้านายชาวผิวขาว และแล้ว โซโลมอน ก็ต้องตกเป็นทาส ชาวผิวขาวยาวนานกว่า 12 ปี…

“โซโลมอน นอร์ธัป” (Solomon Northup) ชาวอเมริกันผิวสีที่เป็นเสรีชนจากรัฐนิวยอร์กที่ถูกลักพาตัวไปขายเป็นทาสในปี ค.ศ. ๑๘๔๑ ใช้แรงงานอยู่ในดินแดนทางใต้อย่างยาวนานถึง ๑๒ ปี อันสะท้อนให้เห็นว่า ในขณะที่รัฐฝ่ายเหนือเริ่มดำเนินการปลดปล่อยทาสผิวสีให้เป็นเสรีชนมาได้ระยะเวลาหนึ่งแล้ว หากแต่ในห้วงเวลาดังกล่าวกลับมีขบวนการลักพาตัวชาวอเมริกันผิวสีไปขายเป็นทาสในรัฐทางใต้ ซึ่งไม่เพียงแต่ภาพยนตร์เรื่องนี้จะแสดงให้เห็นความเลวร้ายของระบบการค้าและการใช้แรงงานทาสอย่างชัดเจนเท่านั้น หากแต่ยังสะท้อนให้เห็นว่าความตึงเครียดระหว่างสังคมรัฐฝ่ายเหนือและรัฐฝ่ายใต้ใกล้ถึงจุดแตกหักแล้ว เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่เกิดขบวนการลักพาตัวไปขายตัวเป็นทาสเช่นนี้เป็นแน่

ต้องบอกเลยว่า หนังเรื่องนี้ทำให้เราเข้าใจ และสัมผัสถึงความรู้สึกที่แท้จริงของกลุ่มคนผิวสีต่าง ๆ ที่ออกมายืนหยัด เพื่อสิทธิและเสรีภาพของตนเอง เพราะตัวหนังได้ถ่ายทอดเรื่องราว และเหตุการณ์การโดนกดขี่ ข่มเหงต่าง ๆ นานา ที่แสนหดหู่ และสะเทือนใจ แต่สิ่งที่น่าเจ็บใจเป็นที่สุด คือ ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นชาวผิวสีที่ร่ำรวย หรือเรียนมาสูงแค่ไหนก็ตาม แต่หากอยู่ในยุคนั้นแล้วล่ะก็ คุณไม่สามารถมีปากเสียงกับชาวผิวขาวคนอื่น ๆ ที่ไม่รู้จักได้เลย แม้กระทั้งการบอกความจริง ว่าตนเอง เป็นไท แล้ว ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะคุณอาจจะถูกเก็บ (ฆ่า) ได้ทุกเมื่อนั่นเอง ถือว่าเป็นหนังที่สะท้อนมุมมองของสังคมในยุค 200 ปีก่อนได้เป็นอย่างดี และยังสามารถสะท้อนมุมมองของสังคมในยุคปัจจุบัน ที่ถึงแม้ว่าผ่านมา 200 ปีแล้ว แต่ก็ยังคงมีบุคคลที่เยียดผิว และเชื้อชาติอยู่นั่นเอง

 

 #หนังแฟนตาซี #ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ