Click 2006 คลิก รีโมตรักข้ามเวลา nakamuraza
หนังยุโรป

Click 2006 คลิก รีโมตรักข้ามเวลา

Click 2006  คลิก รีโมตรักข้ามเวลา 2549 ภาพยนตร์อเมริกัน ดราม่าคอมเมดี้ กำกับภาพยนตร์โดย แฟรงก์ โคราซี เขียนบทโดย มาร์ค โอคีฟ และสตีฟ โคเรน เรื่องราวของ ไมเคิลสถาปนิกหนุ่ม ผู้ที่อยากเจริญก้าวหน้า ร่ำรวยในงาน จนไม่ค่อยได้สนใจครอบครัว ได้พบกับตัวช่วย ซึ่งคือ รีโมทที่ควบคุมได้ทุกสิ่งอย่าง แต่มีข้อแม้ว่าห้ามคืน ผลของมันกลับไม่เป็นอย่างที่เค้าคิด เรื่องมากมายเริ่มเกิดขึ้นกับตัวเค้า อย่างห้ามไม่ได้ นำแสดงโดย อดัม แซนด์เลอร์, เคต เบ็กคินเซล, คริสโตเฟอร์ วอลเคน, เฮนรี วิงค์เลอร์, เดวิด แฮสเซลฮอฟ, ฌอน แอสติน Click 2006 คลิก รีโมตรักข้ามเวลา

วันที่ออกฉาย : 23 มิถุนายน 2549 (สหรัฐอเมริกา)

ผู้กำกับภาพยนตร์ : แฟรงก์ โคราซี

เขียนบทภาพยนตร์ : สตีฟ โคเรน l มาร์ค โอคีฟ

อำนวยการสร้าง : อดัม แซนด์เลอร์ l แจ็ก จียาร์ร่าปูโต l นีล เอช. มอริตซ์ l สตีฟ โคเรน l มาร์ค โอคีฟ l หลุยส์ รีฟโคห์ล

กำกับภาพ : ดีน เซมเลอร์

ดนตรีประกอบ : รูเพิร์ต เกร็กสัน-วิลเลียมส์

ตัดต่อภาพยนตร์ : เจฟ จัวสันต์

ค่ายผลิต : โคลัมเบียพิคเจอร์ส l รีโวลูชั่น สตูดิโอ l แฮปปี้ เมดิสัน โปรดักชั่น l ออริจินัล ฟิลืม

จัดจำหน่าย/เผยแพร่ :  โซนี่พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเมนต์

ความยาว : 1 ชม. 47 นาที

งบประมาณการสร้าง : 82.5 ล้านดอลล่าสหรัฐ

รายได้บ็อกซ์ออฟฟิศ : 240.7 ล้านดอลล่าสหรัฐ

ไมเคิล นิวแมน ( อดัม แซนด์เลอร์ ) สถาปนิกหนุ่ม ที่แต่งงานใช้ชีวิตร่วมกับ ดอนน่า ( เคต เบ็กคินเซล ) และมีลูกสองคนคือ เบน และ ซาแมนธา พร้อมทั้งหมาน่ารักอีกหนึ่งตัว ไมเคิลเป็นพนักงานบริษัท ที่มีจอห์น แอมเมอร์ ( เดวิด แฮสเซลฮอฟ ) เจ้านายตัวแสบที่คอยกดดันข่มเหงลูกน้อง โดยเฉพาะกับไมเคิล มันทำให้เค้าเป็นคนบ้างาน จนไม่สนใจการพาครอบครัวไปเที่ยวพักผ่อน วันหนึ่งไมเคิลเข้าไปหาซื้อรีโมททีวี ที่ร้านค้าปลีกแห่งหนึ่ง ที่มีชื่อว่า เบสบาธ แอนด์บิยอน ที่นั่นเค้าเผลอหลับไป ในระหว่างที่อยู่ในภวังค์ กึ่งหลับกึ่งตื่นเค้าได้พบกับ ชายคนหนึ่งที่ชื่อมอร์ตี้ ( คริสโตเฟอร์ วอลเคน ) ท่าทางเหมือนพนักงานขาย เค้าเสนอให้ทดลองใช้ รีโมทคอนโทรลอเนกประสงค์ แบบฟรี ๆ แต่มีข้อแม้ว่าถ้าใช้แล้วห้ามส่งคืน

เมื่อไมเคิลนำรีโมทนั้น กลับมาใช้งานที่บ้านพบว่า มันสามารถควบคุมความเป็นจริงได้ โดยมีฟังชั่นเหมือนกับโทรทัศน์ ลดเพิ่มเสียง เปลี่ยนภาษา หรือแม้แต่จะกรอเร่งความเร็วไปข้างหน้า เขาใช้มันอย่างสนุกสนาน ทั้งในที่ทำงานและครอบครัว เช่น กดปุ่มมิวส์ปิดเสียง เวลาที่มีใครมาบ่นเรื่องที่ไม่อยากฟัง รวมถึงข้ามช่วงเวลาที่เค้าไม่ชอบไป ทุกอย่างในชีวิตเป็นไปตามที่ไมเคิลต้องการ ด้วยรีโมทควบคุมอันนี้ แต่มันกลับมีผลเสีย มอร์ตี้บอกไมเคิลว่าในช่วงเวลาที่เค้าข้ามไป ในความเป็นจริงเค้าไม่ได้ข้ามไปไหน ร่างกายของเค้าจะใช้ชีวิตปกติ แบบมีสติแต่ไม่สัมปชัญญะ เหมือนกับอยู่ในโหมด ” ออโต้ไพรอท บินอัตโนมัติ ” ไร้ซึ่งความรู้สึกและความทรงจำ

ไมเคิล เมื่อรู้ว่าเจ้านายแอมเมอร์ มีแผนที่จะให้เขาเป็น หุ้นส่วนของบริษัท เมื่อได้ยินดังนั้นไมเคิล จึงใช้รีโมทเพื่อข้ามเวลา เพื่ออยากได้เป็นหุ้นส่วนโดยเร็ว แต่เขาต้องตกใจ เมื่อรู้ตัวอีกทีพบว่าหนึ่งปีผ่านไปแล้ว ในตอนนี้ดูเหมือนเค้าและภรรยาดอนน่า มีปัญหาต้องเข้ารับคำปรึกษา เรื่องการครองคู่สมรส เมื่อไมเคิลเย็นชากับครอบครัว หรือแม้แต่พ่อของตนเอง เทด ( เฮนรี วิงค์เลอร์ ) ชายชราวัยเกษียณ ที่ต้องการลูกชายและหลาน ๆ ส่วนลูกทั้งสองของเขาเติบโตขึ้นมา กลายเป็นเด็กมีปมเล็ก ๆ แถมสุนัขสุดรักของเค้าก็เสียชีวิตไปแล้ว ในระหว่างที่เค้ากำลังเศร้า รีโมตกลับเริ่มข้ามเวลาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของเค้า โดยอัตโนมัติ มันจดจำว่าช่วงเวลาไหนผู้ใช้ต้องการข้ามช่วงนั้น ๆ ไป ไมเคิลเริ่มเห็นข้อเสียของมันมากขึ้น เค้าพยายามที่จะทิ้งหรือทำลายรีโมต แต่มันจะกลับมาอยู่ในมือของเขาทุกครั้ง ที่พยายามทำลายมัน และมอร์ตี้คนขาย ก็ออกมาเน้นย้ำว่าถ้าใช้แล้วห้ามส่งคืน

ณ ที่ทำงาน หัวหน้าแอมเมอร์ตัวแสบ บอกไมเคิลว่า เขาต้องการที่จะเกษียณ ซึ่งจะทำให้ไมเคิลเป็นหัวหน้าคนใหม่ของแผนก แถมการเลื่อนตำแหน่งครั้งนี้ มันอาจทำให้ไมเคิล ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นถึง ซีอีโอ เจ้าของบริษัทเลยก็ได้ ซึ่งเป็นสาเหตุให้รีโมท ข้ามช่วงเวลาไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ไปในอนาคตอีกสิบปีข้างหน้า ในตอนนี้ไมเคิลกลายเป็นคนที่ร่ำรวย แต่ต้องประสบปัญหาโรคอ้วน และดอนน่าภรรยาสุดที่รัก ก็หย่าร้างขาดจากเขาไปนานแล้ว ไมเคิลกลับมาที่บ้านเพื่อไปพบกับเบนและซาแมนต้า ทั้งคู่กลายอยู่ในช่วงวัยรุ่นที่มีอารมณ์แปรปรวน ไมเคิลยอมรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น เริ่มโต้เถียงกับดอนน่าอดีตภรรยา ในขณะนั้นหมาของบิล ( ฌอน แอสติน ) สามีคนใหม่ของดอนน่า มันกระโดดเข้าใส่ไมเคิลที่สุขภาพไม่ดี ทำให้เขาล้มลง ต้องเข้าโรงพยาบาลอาการโคม่า ผลของมันทำให้รีโมทข้ามเวลาไปอีกถึงหกปี เมื่อไมเคิลตื่นขึ้นอีกครั้ง ความอ้วนของเค้าหายไปแล้ว เพราะได้รับการดูดไขมันเพื่อช่วยชีวิตเขาไว้ เป็นส่วนหนึ่งของการรักษาโรคมะเร็ง และโรคหัวใจวายที่ตามมา ตอนนี้ลูกชายเบนเติบโตแล้ว กลายเป็นหุ้นส่วนดูแลบริษัทแทนเค้าอยู่ เบนได้เข้ามาคุยกับเค้า แต่ไมเคิลเหมือนจะลืมเรื่องที่ พ่อของเขาเท็ด ได้เสียชีวิตไปแล้ว

ในขณะที่ไมเคิลกำลังไว้ทุกข์พ่อของเขา ที่หลุมศพของพ่อ เค้าใช้รีโมทเพื่อย้อนเวลากลับไป ดูครั้งสุดท้ายที่พ่อเค้ายังมีชีวิต แต่มันกลับทำไม่ได้ มอร์ตี้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง และเผยให้ความจริง เขาคือเทพแห่งความตาย อธิบายว่า การจะย้อนไปดูได้ ก็ต่อเมื่อไมเคิลต้องอยู่ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย ซึ่งมันไม่มี ไมเคิลทำแต่งาน ไม่เคยที่จะสนใจมาดูแล หรือแม้กระทั่งไปงานศพของพ่อตนเอง ไมเคิลใช้รีโมททำได้เพียง ดูช่วงเวลาครั้งสุดท้าย ที่เขาได้อยู่กับพ่อของเขา เป็นความทรงจำตอนที่เค้าอยู่ในโหมด “ออโต้ไพรอท” เย็นชาคัดค้าน ปฏิเสธทุกข้อเสนอ แถมยังไล่พ่อตนเอง ที่เพียงแค่จะชักชวน เขาและครอบครัว ออกไปทานอาหารค่ำร่วมกัน นั้นคือการสนทนาครั้งสุดท้าย ก่อนที่พ่อเค้าจะเสียชีวิต ไมเคิลรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก

มอร์ตี้พาไมเคิล ข้ามในอนาคตอีกหลายปีข้างหน้า ที่งานแต่งงานของลูกชายเบ็น ที่นั้นเค้าได้พร้อมหน้ากับครอบครัว และสามีใหม่ของดอนน่า ในระหว่างร่วมงานไมเคิลกลับมีอาการหัวใจวายเป็นครั้งที่สอง เมื่อได้ยินซาแมนต้าเรียกบิลสามีใหม่ของดอนน่าว่าพ่อ เขาตื่นอีกทีที่โรงพยาบาล ในคืนนั้นเขาพบครอบครัวของเขาที่นั่นรวมถึงเบ็น เบ็นยกเลิกฮันนีมูนของเขา เพื่อกลับมาช่วยแก้ไขปัญหากับบริษัท ไมเคิลเห็นเช่นนั้นกลัวว่าลูกชายของเขา จะทำผิดแบบเดียวกับที่เขาเคยทำ โดยการเลือกงานก่อนที่จะเลือกครอบครัว ขอร้องให้เบนกลับไปฮันนีมูนกับภรรยา แต่ยังพูดไมทันจบพยาบาลคนหนึ่ง ฏ้ออกมาบอกพวกเค้าว่าหมดเวลาเยี่ยมแล้ว ไมเคิลรู้ว่าวันนี้คือวันสุดท้ายของชีวิตเค้าแล้ว ขืนร่างกายตนเองลุกออกจากเตียง ไมเคิลรวบรวมพลังสุดท้าย เดินตามครอบครัวของเขาออกจากโรงพยาบาล ทุกคนรีบเข้ามาดูใจเค้า ไมเคิลกล่าวสั่งเสียเบน ลูกชายครั้งสุดท้ายว่า “ให้ครอบครัมาก่อนเสมอ” ก่อนทีเค้าจะสิ้นใจลงหน้าโรงพยาบาล พร้อมกับความเสียใจของทุกคน

ไมเคิล ตื่นขึ้นมาในร้าน เบสบาธ แอนด์บิยอน และพบว่าทุกอย่างเป็นเพียงแค่ความฝัน เขารีบกลับไปหาครอบครัวของเขา เพื่อชดเชยความผิดพลาดทั้งหมด ที่เขาได้เห็นกับจากการใช้รีโมทคอนโทรล และแก้ไชทุกอย่าง หันมาให้ความสำคัญกับครอบครัว เรื่องงานเอาไว้ทีหลัง ต่อมาเขาพบรีโมตในอีกครั้ง มันวางอยู่บนเคาน์เตอร์ภายในบ้าน พร้อมโน้ตจากมอร์ตี้เขียนว่า “คนดีต้องพักบ้าง” ไมเคิลหยิบมันขึ้นมาคิดสักครู่ ก่อนจะโยนรีโมตลงในถังขยะ และรู้สึกดีใจเมื่อมันไม่กลับมาอยู่ในมือเค้าอีก

#หนังยุโรป #สมัครยูฟ่าเบท

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *