Sinister 2012 เห็นแล้วต้องตาย 2555 ภาพยนตร์สยองขวัญเหนือธรรมชาติ ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดย อีธาน ฮอว์ก, จูเลียต ไรแลนซ์, ไมเคิล ฮอลล์ ดิอัดดาริโอ, แคลร์ โฟลี่ย์, เจมส์ แรนซัน ภาพยนตร์ได้รับแรงบันดาลใจจากฝันร้ายของผู้ร่วมเขียนบทภาพยนต ซี.โรเบิร์ต คาร์กิลล์ หลังจากรับชมภาพยนตร์The Ring คําสาปมรณะ(2002) โดยผู้จัดทำตั้งใจที่จะเล่าเรื่องสยองผ่านมุมมองกล้องบันทึกวิดิโอขนาด8มม. เรื่องราวเกียวกับนักเขียนหนังสือแนวอาชญากรรมเอลลิสัน ออสวอลต์ซึ่งค้นพบกล่องเก็บภาพยนตร์ขนาด8มม.ในห้องใต้หลังคาบ้านเช่า ที่เค้าพึ่งย้ายเข้ามาอยู่ใหม่กับครอบครัวที่เจ้าตัวรู้อยู่แก่ใจว่าเคยเกิดการฆาตกรรมหมู่เกิดขึ้นโดยไม่คิดจะบอกคนในครอบครัวได้ทราบ เพราะเค้าตั้งใจย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเขียนหนังสือแนวอาชญากรรมของเค้า ในกล่องเก็บภาพยนตร์ขนาด8มม.ที่เค้าพบเจอแสดงภาพการฆาตกรรมที่น่ากลัวที่น่าสยดสยองโดยผู้ถ่ายเอง ซึ่งอาจเป็นเหตุที่ทำให้ครอบครัวของเขาตกอยู่ในอันตราย
วันที่ออกฉาย : 12 ตุลาคม 2555(สหรัฐอเมริกา)
ผู้กำกับภาพยนตร์ : สก็อตต์ เดอร์ริคสัน
เขียนบทภาพยนตร์ : ซี. โรเบิร์ต คาร์กิลล์ l สก็อตต์ เดอร์ริคสัน
อำนวยการสร้าง : เจสัน บลัม l ไบรอัน คาวานเนา-โจนส์
กำกับภาพ : คริสโตเฟอร์ นอร์
ตัดต่อ : เฟรดเดอริค โทรลาวาล
ดนตรีประกอบ : คริสโตเฟอร์ ยัง
ค่ายผลิต : อัลไลแอนซ์ ฟิล์ม l ออโตเมตริก l บลัมเฮาส์โปรดักชั่น l ไอเอ็ม โกลบอล l โปรเซสเซส พิคเจอร์
จัดจำหน่าย/เผยแพร่ : ซัมมิต เอนเตอร์เทนเมนต์ l อัลไลแอนซ์ ฟิล์ม l โมเมนตั้ม พิคเจอร์
ความยาว : 1ชม. 49 นาที
งบประมาณการสร้าง : 3 ล้านดอลล่าสหรัฐ
รายได้บ็อกซ์ออฟฟิศ : 87.7 ล้านดอลล่าสหรัฐ
นักเขียนหนังสือแนวอาชญากรรม เอลลิสัน ออสวอลท์(อีธาน ฮอว์ก) ย้ายไปอยู่ที่บ้านกับภรรยาของเขาเทรซี่(จูเลียต ไรแลนซ์) ลูกชายเทรเวอร์อายุ 12ปี(ไมเคิล ฮอลล์ ดิอัดดาริโอ)และลูกสาววัย 7ขวบของพวกเขาแอชลีย์(แคลร์ โฟลี่ย์) ครอบครัวออสวอลท์ย้ายของเขาไปยังบ้านที่เคยมีการฆาตรกรรมหมู่ยกครอบครัว โดยที่ครอบครัวเก่าสตีเวนสันทั้งหมดถูกฆาตกรรมหมู่แขวนคอด้วยเชือกบนต้นไม้ในสวนหลังบ้านแต่มีเด็กสาวอายุ10ปีที่ชื่อสเตฟานีหายไปอย่างลึกลับ เอลลิสันตั้งใจที่จะใช้กรณีของครอบครัวที่ถูกฆาตกรรมเป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับที่จะนำไปดัดแปลงเขียนเป็นหนังสือเล่มใหม่ของเขาและหวังว่างานวิจัยของเขาจะเปิดเผยชะตากรรมของเด็กหญิงสเตฟานีสมาชิกคนที่หายไปของครอบครัวสตีเวนสันอีกด้วย
ในคืนหนึ่งเอลลิสัน พบกล่องในห้องใต้หลังคาที่มีโปรเจ็กเตอร์และม้วนวิดีโอขนาด 8 มม.หลายม้วน ที่มีการระบุว่าเป็นโฮมวิดิโอ เอลลิสันค้นพบว่าภาพยนตร์ทุกเรื่องเป็นภาพขณะเกิดคดีฆาตกรรมจริงที่แสดงถึงภาพครอบครัวที่ถูกฆ่าตายแตกต่างกันในรูปแบบต่างๆผูกคอหมู่ รวมถึงการจมน้ำ การตัดคอและการลอบวางเพลิง การฆาตกรรมแต่ละครั้งนั้นดำเนินการโดยผู้ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ถือกล้องและถ่ายทำการสังหารหมู่ เอลลิสันบันทึกการปรากฏตัวของสัญลักษณ์ลึกลับในภาพยนตร์เช่นเดียวกับบุคคลที่สวมหน้ากากแปลกๆ โดยเอาเรื่องนี้บางส่วนไปขอคำปรึกษากับรองปลัดอำเภออย่างรองโซ แอนด์โซ (เจมส์ แรนซัน) ที่ก็มีความต้องการที่จะไขคดีนี้อยู่บ้างเป็นทุนเดิม พวกเขาค้นพบว่าการฆาตกรรมเกิดขึ้นในเวลาที่ต่างกันเริ่มต้นในปี 1960 และในเมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศไม่ใช่บ้านหลังนี้ที่เดียว แต่จะมีสิ่งที่คล้ายกันคือมีเด็กหนึ่งคนหายไปหลังจากการฆาตกรรมทุกครั้ง ซึ่งทั้งสองเห็นพ้องต้องกันว่ามันแปลกรองโซ แอนด์โซจึงแนะนำให้ปรึกษากับศาสตราจารย์โจนัสซึ่งมีความเชี่ยวชาญในด้านสิ่งลี้ลับในการช่วยถอดรหัสสัญลักษณ์ลึกลับภายในฟิล์มโจนัสบอกเอลลิสันว่าสัญลักษณ์ดังกล่าวหมายถึงเทพปีศาจแห่งบาบิโลนที่ ชื่อบากูลผู้มีพฤติกรรมฆ่าล้างทั้งครอบครัวแล้วเหลือเด็กไว้คนหนึ่งเพื่อนำไปกินวิญญาณซึ่งเป็นปีศาจที่ไม่ควรยุ่งเกี่ยว
คืนหนึ่งเอลลิสันได้ยินเสียงฉายภาพยนตร์ทำงานจาห้องใต้บันไดจึงขึ้นไปดู แทบไม่เชื่อสายตาเมื่อพบว่าเด็กที่หายไปทุกคนนั่งอยู่ในห้องใต้หลังคาเพื่อชมภาพยนตร์เรื่องหนึ่งทันใดนั้นปีศาจบากูลก็ปรากฏตัวบนฟิล์ม ก่อนที่จะออกมาปรากฏตัวต่อหน้าเอลลิสันทำให้เขาตกใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเค้ากลัวอันตรายจากคำสาปที่จะตามมาจึงนำกล่องเครื่องฉายและภาพยนตร์ออกไปข้างนอกแล้วเผาทิ้งเสียและรีบพาภรรยากับลูกทั้งสองย้ายกลับไปบ้านเก่าโดยเร็วที่สุดที่บ้านเก่าของเขาเอลลิสันได้รับข้อความวิดีโอจากศาสตราจารย์โจนัสผู้ส่งภาพสแกนโบราณที่เกี่ยวข้องกับปีศาจบากูลซึ่งรวมถึงสัญลักษณ์ลึกลับที่เห็นในภาพยนตร์ ในคริสเตียนยุคแรกๆเชื่อว่าภาพสัญลักษณ์ลึกลับทำหน้าที่เป็นประตูสำหรับปีศาจที่ข้ามมาสู่โลกมนุษย์ผ่านเด็กๆและเด็กที่สัมผัสกับภาพเหล่านี้จะถูกครอบงำต้องสาปโดยปีศาจบากูล
เอลลิสันต้องแปลกใจเมื่อค้นพบโปรเจ็กเตอร์และชุดฉายภาพยนตร์ที่ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด ในห้องใต้หลังคาบ้านหลังเก่าทั้งๆที่ ครอบครัวย้ายหนีมาจากบ้านที่เป็นปัญหาแล้วคำสาปยังตามเค้าไปทุกที่ พร้อมกับซองภาพยนตร์ที่มีป้ายกำกับว่า ” Extended Cut Endings “รองปลัดอำเภอได้โทรมาบอกและแจ้งให้เอลลิสันทราบว่าทุกครอบครัวที่ถูกฆาตกรรมเคยอาศัยอยู่ในบ้านที่เกิดการฆาตกรรมครั้งสุดท้ายและการฆาตกรรมครั้งใหม่เกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่ครอบครัวย้ายจากที่เกิดเหตุไปยังที่อยู่ใหม่ของพวกเขาและครอบครัวของเอลลิสันเหมือนจะเป็นเหยื่อรายต่อไปเค้าจึงทำทุกอย่างเพื่อหลุดจากคำสาปนี้
ต่อมาเอลลิสันค้นพบว่าในตอนท้ายของภาพยนตร์ขนาด8มม.นั้นแสดงให้เห็นปรากฎตัวเป็นเด็กที่หายไปมาอยู่บนหน้าจอหลังจากการฆาตกรรมแต่ละครั้งเผยให้เห็นว่าเหล่าเด็กที่หายไปนั้นเองเป็นนักฆ่าก่อนที่จะหายไป กว่าจะรู้ก็สายเกินไปแล้วเมื่อเอลลิสันอยู่ๆก็ล้มลงและก่อนหมดสติไปสังเกตเห็นของเหลวที่ผสมกับกาแฟของเขาในถ้วยพร้อมกับการอ่านโน้ต “ราตรีสวัสดิ์พ่อ” เอลลิสันตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเอง ภรรยาเทรซี่และลูกชายเทรเวอร์ถูกมัดอยู่ แอชลีย์ภายใต้การครอบครองของบากูล เข้าใกล้พวกเขาก่อนที่จะถ่ายทำภาพยนตร์ด้วยกล้อง ขนาด8 มม. หลังจากวางกล้องแล้วบันทึกภาพต่อไปให้ภาพได้แสดงถึงช่วงเวลาที่เด็กหญิงเริ่มสังหารคนในครอบครัวเอลลิสันทั้งหมดด้วยขวาน และใช้เลือดของพวกเขาเพื่อวาดภาพเล่นบนผนังบ้านตามภาษาเด็ก พร้อมกับวาดสัญลักษณ์ของบากูลไว้ที่ประตู แอชลีย์ก็ดูภาพยนตร์ฆาตกรรมผลงานของเธอ ก่อนที่บากูลจะจูงมือเด็กหญิงแอชลีย์เข้าไปในหนังและความมืดก็ปกคลุม กล่องหนังขนาด8มม.ยังคงเก็บไว้อยู่ในห้องใต้หลังคาของครอบครัวออสวอลท์ พร้อมกับจ่าหน้าซองภาพยนตร์เรื่องล่าสุดชื่อว่า ” House Painting ’12 “โดยแอชลีย์ ออสวอลท์
Sinister 2012 ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จในบ็อกซ์ออฟฟิศทำรายรับ 87.7 ล้านดอลลาร์เทียบกับงบประมาณ 3 ล้านดอลลาร์ ความสำเร็จทางการเงินของภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ผู้จัดมีภาคต่อของภาพยนตร์ในชื่อเรื่อง Sinister 2 หลอนไม่เลิก 2558 ออกฉายที่ สหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2015 ได้รับคะแนน 64% จากรอตเทนโทเมโทส์ เว็บไซด์วิจารณ์ภาพยนตร์ โดยได้รับคำวิจารณ์เชิงบวกจากความคิดเห็น 151 รายการโดยมีคะแนนเฉลี่ย 6.25/10 ที่สำคัญนักวิจารณ์แล้วผู้รับชมหลายคนยอมรับว่ามันเป็น หนังสยองขวัญหักมุมที่ดีเรื่องหนึ่ง
