The Cabin in the Woods 2012 แย่งตาย ทะลุตาย 2554ภาพยนตร์อเมริกันสยองขวัญแฟนตาซี กำกับภาพยนตร์โดย ดิวว์ ก็อดดาร์ด เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่อำนวยการสร้างโดย โจส ธูปเวด้ และเขียนบทร่วมกันโดยโจส ธูปเวด้และดิวว์ ก็อดดาร์ด ซึ่งทั้งก็อดดาร์ดและเวด้เคยทำงานร่วมกันก่อนหน้านี้ในซีรีย์ละครทางโทรทัศน์เรื่องเหนือธรรมชาติ Buffy the Vampire Slayer(1997) มือใหม่ปราบผี และ Angel(1999) ทูตสวรรค์ ภาพยนตร์แย่งตาย ทะลุตายรับบทนำแสดงโดย คริสเตน คอนนอลลี่, คริส เฮมส์เวิร์ธ, แอนนา ฮัทชิสัน, ฟราน ครัน, เจส วิลเลียมส์, ริชาร์ด เจนกินส์ และแบรดลีย์ ไวท์ฟอร์ด เรื่องราวที่เกิดขึ้นเริ่มต้นเหมือนหนังแนวสยองขวัญทั่วไปเมื่อกลุ่มนักศึกษาที่หนีไปเที่ยวยังกระท่อมร้างกลางป่าห่างไกลที่พวกเขาตกเป็นเหยื่อกับเหตุการณ์ประหลาดและค่อยๆโดนตามล่าและไล่ฆ่าทีละคน แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้มีมุมมองที่ต่างออกไปเมื่อเรื่องราวสยองขวัญทุกอย่างได้ถูกจัดวางเอาไว้อย่างเป็นระบบแบบแผนจากห้องคอนโทรลใต้ดินที่มีพนักงานแผนกต่างๆทำงานกันอย่างเป็นระบบ มีเจ้าหน้าที่ทำงานอยู่เป็นร้อยเหมือนเป็นองค์กรหรือบริทัษใหญ่แห่งหนึ่งในการควบคุมความสยองนี้
วันที่ออกฉาย : 13 เมษายน 2012 (สหรัฐอเมริกา)
ผู้กำกับภาพยนตร์ : ดิวว์ ก็อดดาร์ด
เขียนบทภาพยนตร์ : โจสส์ ธูปเวด้ l ดิวว์ ก็อดดาร์ด
อำนวยการสร้าง : โจสส์ ธูปเวด้
กำกับภาพ : ปีเตอร์ เดมิง
ตัดต่อ : ลิซ่า ลาสเซค
ดนตรีประกอบ : เดวิด จูเลยาน
ค่ายผลิต : มิวแทนท์ เอเนมี่ โปรดักชั่น
จัดจำหน่าย/เผยแพร่ : ไลออนส์เกต
ความยาว : 1 ชม. 35นาที
งบประมาณการสร้าง : 30 ล้านดอลล่าสหรัฐ
รายได้บ็อกซ์ออฟฟิศ : 66.5 ล้านดอลล่าสหรัฐ
กลุ่มเพื่อนนักศึกษาชาวอเมริกันอย่างสาวมาดเกือบเนิร์ดดาน่า(แอนนา ฮัทชิสัน) หนุ่มผิวสีเรียนดีแถบเป็นสุภาพบุรุษฮาวเด้น(เจสซี วิลเลียมส์) มนุษย์สายควันติดปุ๋นเป็นพวกกัญชาเสรีมาร์ตี้(ฟราน ครานซ์) เชียร์รีดเดอร์สาวสวยจูลส์(แอนนา ฮัทชิสัน)ต้นคิดเรื่องเที่ยวครั้งนี้และแฟนหนุ่มนักกีฬาประจำมหาลัยเคิร์ต(คริส เฮมสวอร์ธ) กำลังว่างแผนจะใช้เวลาช่วงสุดสัปดาห์ไปเที่ยวปาร์ตี้ที่กระท่อมร้างในป่าโดยหารู้ไม่ว่านี่คือแท่นกรรมบูชายัญในห้องปฏิบัติการใต้ดินแห่งหนึ่งวิศวกรซิทเทอร์สัน(ริชาร์ด เจนกิ้นส์)และแฮ็ดลี่ย์(แบรดลีย์ วิทฟอร์ด)หารือเกี่ยวกับแผนการสำหรับพิธีกรรมบูชายัญที่จะเริ่มขึ้นในเร็วๆนี้จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้ หลังจากพิธีกรรมบูชายัญในสตอกโฮล์มเพิ่งสิ้นสุดลงไปด้วยความล้มเหลว ภายห้องปฏิบัติการวิศวกรทั้งสองควบคุมอุปกรณ์กลไกทางแมคนิคส์รวมไปถึงสารเคมีที่ออกฤทธิ์ทางประสาทแตกต่างกันไป อุปกรณ์ทุกตัวติดตั้งอยู่ทั่วบริเวณกระท่อมร้างในป่าทั้งภายในและภายนอกที่สามารถควบคุมจากระยะไกลได้
เมื่อถึงเวลาขั้นตอนแรกพวกคนในห้องปฏิบัติการเริ่มงานด้วยการทำให้กลุ่มนักศึกษามึนเมาด้วยยาที่ออกฤทธิ์ทางประสาทซึ่งมีผลต่อการขัดขวางการคิดอย่างมีเหตุผลและสารฟีโรโมนเพิ่มความใคร่ที่ปล่อยออกมาตามท่อลักษณะเหมือนดายส์ไอซ์เพื่อให้พวกเค้าสนุกมึนงงขาดความระมัดระวังตัวหลังจากเสร็จขั้นตอนแรกภายในห้องปฏิบัติก็เริ่มทำการวางเงินเดิมพันว่าสัตว์ประหลาดชนิดใดจะฆ่าบูชายัญกลุ่มนักศึกษาและได้รับข่าวร้ายว่าพิธกรรมในประเทศอื่นๆก็ล้มเหลวเช่นกัน เหลือเพียงแค่สาขาสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นประเทศที่ไม่เคยพลาดเลยซักครั้งเดียว พวกกลุ่มวัยรุ่นค้นพบในห้องใต้ดินภายในกระท่อมร้างเมื่อพวกเค้าลงไปก็พบวัตถุแปลกประหลาดมากมายหนึ่งในนั้นคือไดอารี่ของ เพเทียนซ์เด็กสาวตระกูลบัคเนอร์ ดาน่าได้เปิดอ่านเป็นเรื่องราวเกี่ยวการถูกกักขังและโดนทารุณจากครอบครัวซาดิสต์ทำร้ายเธอ ด้วยสารเคมีทำให้ดาน่าไม่มีสตินึกคิดอ่านเลยไปถึงคาถาจากสมุดบันทึกซึ่งเป็นการอัญเชิญตระกูลบัคเนอร์ที่ถูกสาปให้เป็นซอมบี้ลุกขึ้นมาจากหลุมโดยไม่ได้ตั้งใจ
มาถึงขั้นตอนต่อไปห้องปฏิบัติจะปล่อยสารฟีโรโมนในประมาณที่มากขึ้นโดยเล็งเป้าไปที่สาวจูลส์เพื่อให้เธอชักชวนแฟนหนุ่มเคิร์ตออกไปเรต ฉ18+กันข้างนอก ก่อนที่พวกเขาถูกโจมตีโดยซอมบี้ที่จับสาวจูลส์ก่อนที่จะฆ่าอย่างสยองขณะที่เคิร์ตหนีไปได้เพื่อเตือนกลุ่มเพื่อนที่เหลือมาร์ตี้สายควันค้นพบอุปกรณ์ที่อาจเป็นกล้องพร้อมสายสัญญาณที่ซ่อนอยู่ในห้องของเขาก่อนที่จะถูกซอมบี้ลากออกไปก่อนที่จะได้ไปเตือนใคร หลังจากนั้นทางฝั่งห้องปฏิบัติการได้รับข่าวร้ายว่าพิธีกรรมบูชายัญในญี่ปุ่นนั้นล้มเหลวเช่นกันซึ่งหมายความว่าพิธีกรรมอเมริกันนั้นเป็น “ความหวังสุดท้ายของมนุษยชาติ”ถ้าไม่สำเร็จทุกคนอาจจะถึงจุดจบ
กลุ่มวัยรุ่นเคิร์ต,ดาน่าและฮาวเด้น พยายามขับรถตู้อาร์วีหลบหนี แต่วิศวกรซิทเทอร์สันและแฮ็ดลี่ย์ที่ต้องออกมาควบคุมการปฎิบัติงานด้วยตนเอง ระเบิดอุโมงค์ทางออกทำให้หินยุบตัวลงมาเพื่อปิดกั้นทางออกพวกเขาทำให้รถตู้อาร์วีไม่มีทางไปต่อได้ หนุ่มนักกีฬาอย่างเคิร์ตเสนอตัวที่จะพยายามกระโดดข้ามหุบเขาด้วยมอเตอร์ไซค์วิบาก เพื่อออกไปขอความช่วยเหลือในด้านอื่น ๆ แต่ก็ชนเข้ากับสนามพลังที่มองไม่เห็นล่วงลงไปในเหวถึงแก่ชีวิต ฮาวเด้นและดาน่าเหมือนจะส่างจากฤทธิ์สารเคมีที่ทำให้ขาดสติด้วยที่ทั้งคู่เป็นคนมีความรู้เมื่อ่เห็นสนามพลังจึงรู้ได้เลยว่าต้องมีคนอยู่เบื้องหลังคอยจัดฉากเรื่องนี้อยู่ พวกเค้าถอยรถตู้อาร์วีกลับไปหาสาเหตุต้นตอทั้งหมดแต่ไม่ทันไร ฮาวเด้นคนขับก็ถูกแทงด้วยฝีมือซอมบี้ที่ซ่อนตัวอยู่ในรถก่อนที่รถจะตกลงไปในทะเลสาป ดาน่าว่ายหนีขึ้นฝั่งได้แต่ก็ถูกโจมตีโดยซอมบี้ตระกูลบัคเนอร์เป็นอันสิ้นสุดพิธีกรรม พนักงานทั้งหมดร่วมฉลองความสำเร็จเมื่อเห็นว่าดาน่าเป็นผู้รอดชีวิตเป็นคนสุดท้ายของพิธีกรรมซึ่งตามกฎเหล็กสาวบริสุทธิ์ต้องเหลือคนสุดท้ายและเธอจะตายหรือไม่ตายก็ได้ แต่ถูกขัดจังหวะด้วยโทรศัพท์จาก”ผู้อำนวยการ” ชี้ให้เห็นภาพของมาร์ตี้สายควันยังมีชีวิตอยู่
มาร์ตี้ช่วยดาน่าจากซอมบี้ก่อนที่จะบอกความลับว่าสารเคมีต่างๆไม่ได้ทำให้เค้ารู้สึกอะไรเลยและเฝ้ามองอาการเพื่อนในกลุ่มค่อยๆแปลกไปเหตุอาจจะเป็นเพราะฤทธิ์สารเคมีในกัญชาที่เค้าสูบอาจต้านสารกล่อมประสาทพวกนั้นหรืออาจเพราะเค้าเมาตลอดเวลาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก่อนที่จะพาดาน่าไปดูที่ลิฟต์ลับที่ถูกซ่อนอยู่ไม่ไกลจากตัวกระท่อม ซึ่งเขาค้นพบมันถูกติดตั้งอยู่ภายใต้หลุมศพของซอมบี้ตระกูลบัคเนอร์นั้นเองเหมือนไว้สำหรับพาพวกซอมบี้มาเล่นงานพวกเค้าเรื่องมาถึงตรงนี้แล้วนึกถึงการ์ตูนสกูบี้-ดูยังไงก็ไม่รู้ ลิฟต์นั้นพาทั้งสองลงมายังใต้ดินค้นพบตัวลิฟต์มากมายที่มีขนาดต่างกันออกไปลักษณะเหมือนห้องภายในมีสัตว์ประหลาดร่วมถึงปีศาจหลากหลายประเภทเท่าที่พวกเราจะเคยเห็นกันมาในหนังสยองขวัญมนุษย์หมาป่า แวมไพร์ ครอบครัวนักฆ่า คุณหมอโรคจิต ตัวตลกเพนนีไวส์ วิญญาณ ซอมบี้ งูยักษ์โบอา หุ่นยนต์สยองขวัญ หัวใบเลื่อย ปีศาจของทางฝั่งยุโรปเรียกได้ว่าครบที่ถูกขังอยู่ในนั้น ทั้งสองหนีลงมาทางช่องฉุกเฉินของลิฟต์พบกับเจ้าหน้าที่ขององค์กรมารอจับกุมพวกเค้าอยู่เจ้าหน้าที่เริ่มยิงเมื่อทั้งสองไม่ยอมหยุดให้คุมตัว พวกเค้าพยายามหลบหนีเข้าไปในห้องเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เหมือนจะเป็นห้องควบคุมการกักขังสัตว์ประหลาดเหล่านั้น ก่อนที่จะตัดสินใจกดปุ่ม “ล้างข้อมูล” ปล่อยสัตว์ประหลาดทั้งหมดซึ่งสร้างความหายนะออกมาสังหารหมู่เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ตายเกือบหมด
ดาน่ากับมาร์ตี้หนีการสังหารหมู่ออกมาค้นพบทางเข้าวิหารโบราณที่ซึ่งได้เผชิญหน้าผู้อำนวยการเธออธิบายถึงเหตุผลที่ต้องมี “พิธีกรรมบูชายัญประจำปีทั่วโลก” เป็นการเสียสละของมนุษย์ถูกจัดขึ้นมาตั้งแต่ยุคโบราณกาล โดยที่จะต้องบูชายัญบุคคล5ประเภทสาวโสเภณี, นักกีฬา, นักวิชาการ, คนโง่ และสาวบริสุทธิ์ แต่ละภูมิภาคมีพิธีกรรมตามสิ่งลี้ลีบปีศาจที่อาศัยอยู่มนประเทศนั้น โดยมีข้อแม้ว่าหญิงโสเภณีต้องเสียชีวิตคนแรกและคนสุดท้ายต้องเป็นหญิงพรหมจารีเท่านั้นจะเสียชีวิตหรือรอดชีวิตก็ได้ เพื่อสังเวยเลือดให้กับกลุ่มของเทพเจ้าใต้ดินที่โหดร้ายเท่านี้พิธีกรรมเป็นอันสมบูรณ์ หากไม่ทำตามโลกจะถึงวันโลกาวินาศ พิธีกรรมทางฝั่งอเมริกันเกี่ยวข้องกับการเสียสละของ สาวโสเภณี : จูลส์, นักกีฬา : เคิร์ต, นักวิชาการ : ฮาวเด้น, คนโง่ : มาร์ตี้ และสาวบริสุทธิ์ : ดาน่าผู้อำนวยการพยายามขอร้องโน้มน้าวให้สาวดาน่าฆ่ามาร์ตี้สายควันเพื่อทำพิธีกรรมให้สมบูรณ์เพื่อช่วยมนุษยชาติจากวันโลกาวินาศทันใดนั้นดาน่าก็ถูกโจมตีโดยมนุษย์หมาป่า ในขณะที่ซอบบี้เด็กสาวเพเทียนซ์ บัคเนอร์เข้าลอบจู่โจมผู้อำนวยการตายไป ในตอนท้ายมาร์ตี้และดาน่าตัดสินใจว่ามนุษยชาติไม่คุ้มค่าในการเสียสละ ก่อนที่ทุกอย่างจะค่อยๆพังลงมา
ผู้สร้างต้องการจะนำเสนอมุมมองภาพยนตร์ประเภทล่าเหยื่อหนีตายให้แตกต่างออกไปจากเดิม รวมไปถึงเทคนิคพิเศษคอสตูมเครื่องแต่งกายมอนสเตอร์เมคอัพพิเศษสำหรับภาพยนตร์ทำโดยนักแสดง หนังสยองขวัญที่ มีประสบการณ์จากบริษัท AFX Studioการถ่ายทำเกิดขึ้นในเมืองแวนคูเวอร์ บริติชโคลัมเบีย ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม 2552ด้วยงบประมาณประมาณ 30 ล้านดอลลาร์และทำรายได้รวมกว่า 66 ล้านเหรียญทั่วโลก ภาพยนตร์เรื่องนี้มีกำหนดจะวางจำหน่ายตั้งแต่ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2010 แต่ถูกยกเลิกไปเรื่อย ๆ เนื่องจากปัญหาทางการเงินในปี 2011ไลออนส์เกตได้รับสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายจนภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ฉายรอบปฐมทัศน์ในเทศกาลภาพยนตร์เซาท์ บาย เซาท์เวสใน ออสติน เท็กซัส เว็บไซต์รวบรวมบทวิจารณ์ภาพยนตร์ รอตเทนโทเมโทส์ ให้คะแนนภาพยนตร์ 91% จากบทวิจารณ์ 281 เรื่องโดยมีคะแนนเฉลี่ย 7.86 / 10
#The Cabin in the Woods (2012) แย่งตาย ทะลุตาย 2554 #สปอยหนัง
