Vincenzo ซีรีส์เกาหลีแนว Bad Joke สุดเข้มข้นและดราม่า
ปกติแล้วซีรีส์หรือภาพยนตร์แนว Black Joke นั้นมักจะมาจากสื่อบันเทิงทางฝั่งตะวันตกมากกว่าฝั่งตะวันออกอย่างบ้านเรา แต่ถึงอย่างนั้นต้องยอมรับว่าเกาหลีเติบโตในด้านอุตสาหกรรมบันเทิงเป็นอย่างมากจนสามารถฉีกกรอบเดิม ๆ ได้สำเร็จ และสามารถสร้างซีรีส์เกาหลีแนว Bad Joke ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมจนประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ที่สำคัญคือมันเป็น Bad Joke ที่สามารถย่อยง่าย สามารถรับชมแล้วเข้าใจได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องตีความลึกซึ้งอะไร ค่อนข้างที่จะมีความเป็นมิตรต่อผู้รับชมเลยทีเดียว นั่นก็คือซีรีส์เรื่อง Vincenzo
เป็นซีรีส์ที่เล่าถึงเรื่องราวเกี่ยวกับทนายความมาเฟีย เพียงแค่อาชีพของพระเอกก็ดูตลกร้ายแล้วเพราะทนายความต้องพิทักษ์ความถูกต้องของกฎหมายในขณะที่มาเฟียนั้นเป็นอาชีพที่ผิดกฎหมาย ซีรีส์ค่อนข้างจะ Over Acting ซึ่งสามารถสร้างความตลกได้เป็นอย่างดีไม่น่าผิดหวังอะไรแถมยังดูไม่ยัดเยียดจนน่ารำคาญ แต่หลังจากที่ผ่านพ้นช่วงสบาย ๆ ไปแล้วซีรีส์ก็สามารถทำหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวสุดเข้มข้นและดราม่าได้เป็นอย่างดี แต่เคร่งเครียดได้ไม่นานก็จะพลิกกลับมาตลกอีกครั้ง พลิกกลับไปกลับมาอยู่หลายครั้งซึ่งสามารถสร้างความสนุกสนานได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตามขอให้ทำใจเอาไว้ก่อนว่ามันมีอะไรหลายอย่างที่ไม่ค่อยสมเหตุสมผล แต่มันก็เป็นปกติของสื่อแนว Bad Joke อยู่แล้ว โดยรวมแล้วมันถือว่าเป็นซีรีส์ที่สามารถสร้างความบันเทิงให้กับผู้รับชมได้เป็นอย่างดี
Vincenzo จะเล่าถึงเรื่องราวของ วินเซนโซ่ กาซาโนชาย หนุ่มชาวเกาหลีใต้ที่ถูกเลี้ยงดูโดยแก๊งมาเฟียแก๊งใหญ่ของอิตาลีจนเติบโตขึ้นมากลายเป็นทนายประจำแก๊ง เขานั้นจำเป็นต้องเดินทางกลับมายังประเทศบ้านเกิดเมืองนอนอีกครั้งเพื่อสะสางบางสิ่งบางอย่างที่ค้างคาอยู่ แต่มันกลับทำให้เขานั้นได้ไปพัวพันกับเรื่องราววุ่นวายมากมายที่ทำให้เขานั้นต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายในการต่อสู้ แต่ความรู้เพียงแค่อย่างเดียวก็ยังคงไม่เพียงพอทำให้เขาต้องงัดวิชามาเฟียเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการต่อสู้ด้วย ด้วยเหตุนี้เรื่องราวของเขานั้นจึงเต็มไปด้วยความวุ่นวายมากมายตามมา
แต่มันก็ทำให้เขาได้พบกับกลุ่มเพื่อนแท้รวมไปถึงหญิงสาวที่อยู่ข้างเขาตลอดเวลาอีกด้วยถึงแม้ว่าบางครั้งเธอเองจะกลายเป็นคนที่สร้างปัญหาก็ตามที ดูผิวเผินแล้วซีรีส์เรื่องนี้อาจจะเป็นซีรีส์ที่เน้นความตลกแบบดาร์ก ๆ แต่ความจริงแล้วมันเป็นซีรีส์ที่ค่อนข้างจริงจังแถมยังดำเนินเรื่องได้อย่างรวดเร็วกระชับฉับไวอีกด้วย แม้ว่ามันจะมีถึง 20 ตอนแถมความยาวตอนหนึ่งยังกินเวลายาวนานถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง แต่หากคุณรับชมไปสักพักนึงรับรองว่าคุณจะติดหนึบกับซีรีส์เรื่องนี้อย่างแน่นอน