หนังแอนิเมชั่น

Pom Poko 1994

Pom Poko 1994 ปอมโปโกะ ทานูกิป่วนโลก 2537 ภาพยนตร์อนิเมะแฟนตาซีญี่ปุ่น  ภาพยนตร์เรื่องนี้เขียนบทและกำกับโดย อิซาโอะ ทาคาฮาตะ มีชื่อทางการว่า Heisei Tanuki Gassen Ponpoko( 平成狸合戦ぽんぽこ ) หรือ The Raccoon War (Heisei-era Raccoon Dog War Pom Poko) ที่ออกฉายในปี ค.ศ. 1994 คำว่า “Pom Poko” ในชื่อเรื่องหมายถึงเสียงของทานูกิ หรือแรคคูนพันธุ์หนึ่งในญี่ปุ่นเป็นสัตว์ที่มีความเป็นกันเองเชื่องและซุกซนมากมีจุดเด่นทีถุงอัณฑะของพวกมัน สอดคล้องกับคติชนวิทยาชาวญี่ปุ่นตามตำนานนิทานพื้นบ้านเชื่อว่าเผ่าพันธุ์ทานูกินั้นสามารถใช้ “ศาสตร์แห่งภาพลวงตา” เพื่อแปลงร่างเป็นอะไรก็ได้เกือบทุกอย่างเหมือนกับเหล่าคิดซูเนะ หรือจิ้งจอกแปลงกาย และยังมีสัตว์อื่นๆอีกบางประเภทก็ทำได้เช่นกัน

เรื่องราวเกิดขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1960-1969 ในญี่ปุ่น ฝูงตัวทานุกิหรือ หมาแร็คคูนของญี่ปุ่น ถูกรุกรานจากการขยายที่ทำกินแถบเนินเขาทามะ ชานกรุงโตเกียว โดยมนุษย์ที่จะสร้างโครงการเมืองใหม่ ซึ่งต้องตัดต้นไม้ที่เป็นเหมือนบ้านและใช้พื้นที่ร่วมกับพวกมัน การก่อสร้างดำเนินไปอย่างต่อเนื่องจนถึงตอนต้นของยุค90s เป็นผลให้พื้นที่อยู่อาศัยและอาหารลดลงอย่างน่าใจหาย ฝูงทานุกิเริ่มที่จะต่อสู้เพื่อรักษาบ้านของพวกมันเองไว้ พวกมันจึงตัดสินใจที่จะกระทำการต่อต้านมนุษย์ โดยใช้ความสามารถที่มีอยู่ คือการแปลงร่าง และหยุดการพัฒนาที่ดินเหล่านั้น แต่ไม่สำเร็จ ดังนั้นพวกมันจึงเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตร่วมกับมนุษย์อย่างสันติ

วันที่ออกฉาย : 16 กรกฎาคม 1994 (ญี่ปุ่น)

ผู้กำกับภาพยนตร์ : อิซาโอะ ทาคาฮาตะ

เขียนบทภาพยนตร์ : อิซาโอะ ทาคาฮาตะ

อำนวยการสร้าง : โตชิโอ ซูซูกิ

กำกับภาพ : อัตสึชิ โอคุอิ

ตัดต่อ : ทาคาชิ เซยาม่า

ดนตรีประกอบ : วงดนตรี Shang Shang Typhoon

ค่ายผลิต : สตูดิโอจิบลิ

จัดจำหน่าย/เผยแพร่ : บริษัทจัดจำหน่ายภาพยนตร์โตโฮ

ความยาว : 1 ชม. 59 นาที

รายได้บ็อกซ์ออฟฟิศ : 4.47 ล้านเยนญี่ปุ่น

รางวัลที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิง :
รางวัลออสก้า ครั้งที่67 สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม
พ.ศ. 2537

รางวัลที่ได้รับ :
เจแปนอะคาเดมี ไพรซ์ สาขารางวัลพิเศษจากประธาน
พ.ศ. 2537

เรื่องราวเริ่มขึ้นในปลายปี 1960 ที่ประเทศญี่ปุ่น กลุ่มทานูกิ ถูกคุกคามโดยโครงการพัฒนาชานเมืองขนาดมหึมาเริ่มที่จะรุกล้ำเข้าสู่ที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินของพวกทานูกิ โดยตั้งชื่อโครงการเมืองใหม่ว่า” ทามะนิวทาวน์ ” บริเวณแถบเนินเขาทามะ ชานเมืองของกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เรื่องราวดำเนินต่อในต้นปี 1990 ญี่ปุ่นในช่วงปีแรกๆของยุคเฮเซ(1989-2019) ด้วยพื้นที่ที่ถูกทำลายจากมนุษย์และอาหารลดลงทุกๆปีเหล่าทานูกิเริ่มต่อสู้กันเองเพื่อแย่งชิงทรัพยากรที่ลดน้อยลง แต่ด้วยการกระตุ้นของหัวหน้าโอโรคุ พวกเขาตัดสินใจรวมกันเพื่อหยุดการลุกล้ำทำลายป่าของพวกมนุษย์ นำไปสู่การประชุมรวมกลุุุ่มต่อต้านการกระทำของมนุษย์โดยมีทานุกิฝีมือฉกาอย่างกอนต้า, นักปราชญ์และอาจารย์ไซเซม่อน, หัวหน้าโอโรคุและโชคิจิที่ยังเยาว์วัยแต่มีไหวพริบและทักษะการลวงตา ซึ่งพวกเขาแสดงวิชาแปลงกลายหลากหลายแบบรวมถึงการทำลายข้าวชองในเขตก่อสร้าง ลวงตาหลอกหลอนคนงานในรูปแบบต่างๆให้เชื่อในเรื่องลี้ลีบดวงวิญญาณที่แฝงอยู่ในป่า ทำให้คนงานก่อสร้างกลัวจนเลิกงานเผ่นหนี แต่ก็ไม่สามารถสู้แรงเงินได้เมื่่อมีการจ้างคนงานเพิ่มเข้ามาแทนที่พวกเก่าทันทีทุกครั้งที่สามารถไล่ชุดเก่าออกไปได้ เหล่าทานูกิจากทามะจึงส่งกลุ่มผู้สื่อสารออกไปเพื่อขอความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสในตำนานจากภูมิภาคอื่นเพื่อหวังจะให้มาช่วยจากการรุกรานทำลายป่าของมนุษย์

Pom Poko 1994

หลังจากผ่านไปหลายปี หนึ่งในผู้ส่งสารกลับมานำสามผู้เฒ่าจากเกาะที่ห่างไกลของเกาะชิโกกุ เป็นหนึ่งในห้าเกาะหลักของญี่ปุ่นซึ่งเล็กรองลงมาจากโอกินาว่า ซึ่งการรุกล้ำป่าเพื่อพัฒนาเมืองยังไม่เกิดขึ้นจึงไม่เป็นปัญหาอีกทั่งมนุษย์แถบนั้นยังมีความเชื่อเรื่องจ้าวป่าจ้าวเขา ผีสางนางไม้หรือแม้กระทั้งจิ้งจอกทานุกิก็ตาม เมื่อมาถึงที่ประชุมสามผู้เฒ่าจึงกล่าวถึงความพยายามในการสร้างความเคารพในเรื่องเหนือธรรมชาติให้กับคนในเมืองทามะใหม่ โดยจะใช้พลังที่มีจัด ” ขบวนพาเหรดผี ” ขนาดมหึมาโดยมีการแปลงกลายเป็นภูตผีและสิ่งศักสิทธิ์ของญีปุ่นเพื่อทำให้มนุษย์กลัวและจะพลักดันความเชื่อว่าเมืองนี้ยังมีภูติผีสิ่งลี้ลับสิงอยู่จะได้หยุดการรุกล้ำทำลายป่าเข้าไปในเขตที่ทำกินของเหล่าทานุกิ แต่เหมือนความพยายามครั้งนี้ดูจะสูญเปล่าเมื่อเจ้าของสวนสนุกในบริเวณใกล้เคียง กลับมาออกข่าวยอมรับว่าขบวนพาเหรดเป็นการแสดงเพื่อประชาสัมพันธ์โปรโมทสวนสนุกที่กำลังจะเปิดให้บริการเป็นเหตุให้การทำลายป่าเพื่อสร้างตึกคอนโดหรูยังมีการสร้างต่อไป

ขบวนพาเหรดผีจากความสามัคคีของทานูกิก็ล้มเหลวในที่สุด เหล่าทานุกิก็แยกออกเป็นกลุ่มเล็ก ๆ แต่ละกลุ่มต่างก็ใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างกัน โดยกลุ่มหนึ่งนำโดยกกอนต้า ตัดสินใจแปลงกายและใช้ความรุนแรงทำลายข้าวในเขตก่อสร้างคนงานจนกว่าพวกเขาจะย้ายออกไปเป็นเหตุให้เรื่องถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาปราบปราม อีกกลุ่มหนึ่งพยายามอย่างยิ่งที่จะดึงความสนใจจากสื่อมวลชนผ่านสื่อโทรทัศน์เพื่อฟ้องร้องคดีเกี่ยวกับการทำลายที่อยู่อาศัยของพวกเค้าแต่เหมือนทุกทางจะไม่เกิดผลประโยชน์ใดๆกับพวกเค้าเลย โดยจากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ผู้เฒ่าเสียชีวิตเนื่องจากชราและใช้จิตจนเกินพลังตนเองรวมถึงชาวทานูกิที่ไม่สามารถแปลงร่างได้ในที่สุดก็ต้องเสียชีวิตโดยการล่องเรือสู่ความตายกับปรมาจารย์ผู้อาวุโส ในขณะที่ทานุกิตนอื่นอื่นก็หมดหนทางต้องเข้าร่วมโลกมนุษย์แปลงกายอยู่ในฐานะมนุษย์ เหมือนกับเหล่าจิ้งจอกแปลงกาย ที่ปัจจุบันก็ต้องแปลงกายไปอยู่ทำมาหากินรวมกับมนุษย์เพราะไม่มีป่าให้พวกอาศัยและออกล่าอีกต่อไปแล้วส่วนที่แปลงกายไม่ได้ก็ต้องตายเพราะถูกล่าหรืออดอยากเช่นกัน

เมื่อทุกอย่างล้มเหลวในการท้าท้ายครั้งสุดท้ายทานูกิที่เหลือจึงใช้พลังทั้งหมดที่มีกลายเป็นภาพลวงตาที่ยิ่งใหญ่เปลี่ยนที่ดินในเมืองให้กลับสู่สภาพเดิมเพื่อเตือนเหล่ามนุษย์ทุกคนถึงสิ่งที่สูญเสียไปเป็นการสั่งเสียเป็นครั้งสุดท้าย แต่ก็ไม่ได้ทำให้มนุษย์สำนึกดีขึ้นเลยและนั้นคือการแสดงพลังครั้งสุดท้ายจากเหล่าทานุกิแห่งเมืองทามะ ในขณะที่สื่อโทรทัศน์ที่เหล่าทานุกิเคยขอความช่วยเหลือก็โฆษณาแสดงพลังการต่อต้านการทำลายป่าแต่ก็เหมือนจะมาสายเกินไปที่จะหยุดการก่อสร้างพัฒนาเมืองใหม่ทามะ จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมดดูเหมือนจะมีประชาชนบางส่วนที่ตอบสนองต่อปัญหาครั้งนี้ ด้วยเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจจึงผลักดันให้ผู้พัฒนาเมืองตั้งพื้นที่บางแห่งเป็นพื้นที่สีเขียว แต่อย่างไรก็ตามพื้นที่สีเขียวนั้นก็ยังเล็กเกินไปที่จะรองรับเหล่าทานูกิที่่ไม่สามารถแปลงกายได้ จึงทำให้ยังต้องออกไปค้นหาเศษอาหารโดยที่พื้นที่เหล่านั้นปัจจุบันเป็นถนนที่มีรถสันจรไปมาทำให้เกิดอุบัติเหตุทานุกิโดนชนตายไปมากมาย ในขณะที่ทานุกิตัวอื่นก็ย้ายถิ่นฐานกระจายออกไปสู่ชนบทที่ความเจริญยังเข้าไปไม่ถึงแต่ก็ต้องไปแก่งแย่งอาหารทานูกิเจ้าถิ่น แทบจะไม่มีหนทางอยูรอดเลยสำหรับทานุกิหรือสัตว์อื่นที่ไม่สามารถแปลงร่างอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้

อยู่มาวันหนึ่งโชคิชิ ทานุกิหนุ่มผู้ซึ่งแปลงกายได้อยู่ร่วมกับโลกมนุษย์ในขณะที่กำลังจะกลับบ้านจากการทำงานมนุษย์เงินเดือน เมื่อเขาเหลือบเห็นทานูกิกระโจนสู่ช่องว่างในกำแพง โชคิชิจึงตามคลานเข้าไปในช่องว่างและเส้นทางซึ่งนำไปสู่รานหญ้ากว้างรกล้างที่ซึ่งอดีตสหายของเขาบางคนกำลังร้องรำทำเพลงกัยอยู่ เขาแปลงร่างเป็นทานูกิวิ่งเข้าไปร่วมวงอย่างสนุกสนานกับพวกของเขาความสุขเล็กๆน้อยๆของเหล่าทานุกิที่ต้องทนอยู่ในสังคมเมืองเพราะถูกเบียดเบียนจากมนุษย์ เรื่องราว Pom Poko 1994 อยากให้เป็นแรงบันดาลใจให้มนุษย์คำนึงถึงทานูกิและสัตว์อื่นๆที่อาศัยดำรงเผ่าพันธุ์อยู่ในป่าก่อนแล้ว มีจิตสำนึกด้วยการไม่ทำลายป่าไม้รุกล้ำพื้นที่อยู่อาศัยของพวกเขา เป็นภาพยนตร์ญี่ปุ่นอันดับหนึ่งในตลาดประเทศญี่ปุ่นปี 1994 มีรายได้ 2.63 พันล้านเยนจากการจัดจำหน่ายและทำรายได้รวม 4.47พันล้านเยน ภาพยนตร์เรื่องนี้มีคะแนนคำวิจารณ์ในเกณฑ์ที่สูงถึง 83% จากเว็บไซค์วิจารณ์ภาพยนตร์รอตเทนโทเมโทส์

#Pom Poko (1994)ทานูกิป่วนโลก 2537  #แอนิเมชั่น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *